1 พ.ย. 2564 เชียงใหม่เปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว ขณะตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ยังสูง ชาวเชียงใหม่วิตกว่าจะยิ่งเร่งการติดเชื้อหรือไม่ ยิ่งร้อนแรงเมื่อมีหมอออกมาค้านแผนเปิดประเทศ
จนผู้บริการระดับสูงกระทรวงสาธารณสุขต้องตั้งแถวแถลงยืนยัน มีแผนรองรับสถานการณ์ที่เชียงใหม่ โดยบูรณาการความร่วมมือทั้งทีมหมอและเตียงผู้ป่วยกับจังหวัดข้างเคียง สถานการณ์คุมอยู่และจะคลี่คลายใน 2 สัปดาห์ ขณะที่ฝ่ายปกครองและผู้ประกอบการท่องเที่ยวประสานเสียงหนุน“เดินหน้า”
นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้ทำมาตรการเชิงรุกอย่างเข้มงวดในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ควบคู่กับการบริหารจัดการเตียงผู้ป่วย โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคทุกอำเภอ ได้ดำเนินการอย่างเข้มงวด บริหารเตียงผู้ป่วยไว้รับกลุ่มสีเหลืองและแดงเพิ่ม
นอกจากนี้ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งดำเนินการปิดล้อมพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมโรคอย่างรวดเร็ว ให้สอดคล้องกับการรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรับนักท่องเที่ยว ตามแผน CHARMING Chiangmai พบว่าส่วนใหญ่มีมาตรฐาน SHA และ SHA+
“การเปิดเมืองครั้งนี้จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่จากที่ประเมินช่วงหยุด 4 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเข้ามาเป็นจำนวนมากพอสมควร คาดว่าภายหลังจากการเปิดรับนักท่องเที่ยว จะมีเงินหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากยิ่งขึ้น” นายรัฐพลยํ้า
ด้านนายวัลลภ แช่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ความพร้อมของเชียงใหม่วันนี้ สำหรับตลาดคนไทยจากทั่วประเทศ เดินทางเข้าเชียงใหม่ได้ ถ้าฉีดวัคซีนครบแล้ว และทำตามมาตรการของสาธารณสุข เชียงใหม่ไม่เคยปิดสำหรับคนไทย
สำหรับตลาดต่างประเทศ ส่วนแรกคนจากกลุ่มประเทศเสี่ยงตํ่า 63 ประเทศตามนโยบายเปิดประเทศของไทย ที่เชียงใหม่แทบไม่มีเที่ยวบินตรงจากเมืองที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ส่วนใหญ่เข้ากรุงเทพฯหรือภูเก็ตก่อน จึงไปเที่ยวพื้นที่อื่น
ส่วนที่ 2 คือนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่น ถ้าเข้ามาก็อยู่ในแซนด์บ็อกซ์ อยู่ในสนามกอล์ฟหรือคนที่ไม่ได้ฉีดหรือฉีดวัคซีนไม่ครบ ก็มากักตัว 10 วันจากเดิม 14 วัน เมื่อครบแล้วจึงไปเที่ยวอิสระได้ เพราะฉะนั้น ความเสี่ยงของเชียงใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติตํ่ามาก
“ในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เจอโควิดกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เราขอแค่โอกาส ที่จะทำให้อีก 100,000 ครอบครัวในภาคบริการ มีโอกาสเฉกเช่นอาชีพ อื่นๆ ขอแค่ให้เขาได้ทำมาหากิน หาจ่ายค่าเทอมลูก มีเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ขอโอกาสที่จะทำให้อีกขาหนึ่งของเศรษฐกิจเชียงใหม่กลับมา ซึ่งไม่ใช่เพื่อท่องเที่ยว แต่เพื่อชาวบ้านที่เขาพึ่งพาธุรกิจภาคบริการ โดยพร้อมร่วมมือกับทางสาธารณสุขเต็มที่ ให้ขับเคลื่อนอย่างสมดุลย์ไปด้วยกัน ขอให้มองภาพรวมและให้โอกาสกัน”
ด้านนางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผยว่า ไฮซีซั่นนี้ตลาดภายในประเทศเราเองเป็นตลาดหลักของเชียงใหม่และของภาคเหนือ เพราะแม้ช่วงคนเข้าพักดีๆ ในอดีต สัดส่วนหลักก็เป็นนักเดินทางในประเทศ 70% ต่างชาติแค่ 30%
เพราะฉะนั้นก็คิดว่า เราอยู่กับสิ่งที่เป็นตัวตนของเราดีกว่า ในช่วงไตรมาส 4 นี้ ไว้ปีหน้าไป ค่อยมองเห็นการขยับเดินทางของนักเดินทางต่างประเทศ เพราะแม้จะประกาศรายชื่อประเทศแล้ว แต่การจะเดินทางยังมีขั้นตอนอีกพอสมควร รวมถึงยังต้องทำตลาด สร้างความรับรู้ สร้างความเชื่อมั่นอีกระยะ
ส่วนยอดจองห้องพักโรงแรมในเชียงใหม่นั้น ช่วงก.ย.อยู่ที่ประมาณ 10-15% เดือนต.ค. ที่น่าจะได้ 30% แต่จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ดันยอดจอง 2 สัปดาห์หลังของเดือน ทำยอดจองในเมืองขึ้นเป็น 35-40% ส่วนรอบนอกพุ่งเป็นไม่ตํ่ากว่า 60% มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น มีคนขับรถมาเที่ยวเชียงใหม่มากขึ้น เพราะสะดวก ไม่ติดด่านคัดกรองที่ทำให้กังวลใจ คาดว่าพ.ย. และ ธ.ค. 2 เดือนท้ายปีนี้ ยอดจองน่าจะบวกเข้าไปอีก 10-15% จากนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก
ส่วนประเด็นที่มีหมอค้านเปิดเมืองนั้น นางละเอียดกล่าวว่า เป็นเสียงสะท้อนหนึ่งที่ควรฟัง แต่ทั้งนี้เราเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของเรา ว่าจะควบคุมได้ อาจใช้เวลา 7-14 วัน ตามลักษณะการระบาด
“เกิดระบาดที่ไหนก็ปิดล้อมจุดนั้น และประชาชนก็ให้ความร่วมมือ ระมัดระวังการใช้ชีวิตให้เป็นปกติแบบปลอดเชื้อ มีสุขภาพที่ดี ปรับตัวอยู่กับโควิดอย่างที่อยู่กันมา 18-19 เดือนกันอย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ประกอบการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องร่วมกันขับเคลื่อนทั้งองคาพยพ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวต่อไป” นางละเอียดกล่าวทิ้งท้าย
หน้า10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,728 วันที่ 4-6 พฤศจิกายน พ.ศ.2564