เปิดเผยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงวันลอยกระทง วันที่ 19 พ.ย.นี้ จำนวน1,240 รายทั่วประเทศ พบว่า 51% วางแผนจะไปลอยกระทง 31% ไม่ลอยกระทง 12% ไม่แน่ใจ และ4.6% ไปแต่ไม่ลอยกระทง โดยเหตุผลหลักที่จะไปลอยกระทงคือ เพื่อความผ่อนคลาย ถึง55% รองลงมาเพราะเป็รประเพณี 42% ส่วนเหตุลผที่ไม่ไปลอย คือ เรื่องเศรษฐกิจไม่ดี ตอบถึง31% รองลงมาคือกลัวโควิด ถึง25% กลัวการชุมนุม 21% ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย 15%
ทั้งนี้ปริมาณการซื้อสินค้าในปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่า ลดลงน้อยถึง45% และที่ตอบว่าเท่าเดิม มี32% ลดลงมาก 12% ซึ่งเงินที่นำมาใช้จ่ายในวันลอยกระทง 53% เป็นเงินเดือนหรือรายได้ปกติ และ22% มาจากเงินออม และ18%มาจากเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล
และสำหรับบรรยากาศลอยกระทงปีนี้เทียบกับปีก่อน สนุกสนานน้อยลง32% สาเหตุมาจนกกลัวโควิด สถานการณ์เศรษฐกิจ และกังวลเรื่องค่าครองชีพ ส่วนGEN Zและ Y กว่า50%ตอบว่ามีความสนุกกว่าขึ้น สาเหตุเพราะเป็นช่วงเทศกาล การผ่อนคลายมาตรการ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ
“งานลอยกระทงปีนี้ คึกคัก แต่เป็นการคึกคักแบบประหยัด เชื่อว่าคนยังออกไปลอยกระทง แต่การใช้จ่ายในงานลอยกระทงจะใช้จ่ายแบบประหยัด เพราะมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มที คนยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งนี้คาดการณว์ว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในวันลอยกระทง 9,000ล้านบาท ซึ่งต่ำสุดในรอบ10ปีนับตั้งแต่ปี2554 ปีที่มีน้ำท่วม ซึ่งความกัวลของคน คือ การแพรระบาดของไวรัสโควิด ภัยธรรมชาติต่างๆ การจารจรติดขัด พ่อค้าแม่ค้าฉวบโอกาสขึ้นราคาสินค้า เป็นต้น
ส่วนคำอธิฐานส่วนใหญ่จะอธิฐานให้ พระราชินีในรัชกาลที่9 ในหลวงรัชกาลที่10 และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และพระชนมายุยิ่งยืนนาน ,ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ขอให้เศรษฐกิจดี การเมืองดี ของให้ครอบครัวมีความสุข มีงานทำมีเงินใช้ และขอให้ทุกคนรักสามัคคี