เลขาฯสภาพัฒน์ มีหนังสือที่นร. 1114/22564 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งผลการประชุมและข้อสั่งการนายกฯ ระหว่างประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาตใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล) เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2564 ระหว่างเวลา 09.15-10.15 น. ห้องประชุมโภคีธรา แกรนด์ บอลรูม โรงแรมโภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ในวาระจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ(ครม.สัญจร) ที่จังหวัดกระบี่
โดยที่ประชุมเห็นชอบโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี จำนวน 7 โครงการ ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะ รองรับการท่องเที่ยวนานาชาติ จังหวัดสตูล โดยการขยายปรับปรุงอาคาร และการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเสริมสร้างสุขภาพตำบล ตำบลหลีเป๊ะ งบประมาณ 83 ล้านบาท
2.โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง โดยการปรับปรุงศูนย์อนุบาลและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ปรับปรุงห้องปฎิบัติการ ปรับปรุงภูมิทัศน์ งบประมาณ 82 ล้านบาท
3.โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสิ่งแวดล้อม จังหวัดระนอง ได้แก่ การปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองและสะพานข้ามคลองหงาว และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เชิงคีรี ตำบลเขานิเวศน์ งบประมาณ 80 ล้านบาท
4.โครงการ Phuket Health Sandbox จังหวัดภูเก็ต โดยการบูรณาการระบบสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นต้นแบบเมืองท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เชื่อมโยงสุขภาพบุคคลและระบบปฐมภูมิด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ให้เป็น Digital Platform/Digital Health Code และจัดตั้งศูนย์ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทั้งระบบ งบประมาณ 84 ล้านบาท
5.โครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา จังหวัดพังงา (The Park Khaolak) โดยการก่อสร้างอาคารศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการ ลานกิจกรรม ทางวิ่งทางเท้า และการปรับภูมิทัศน์ งบประมาณ 80 ล้านบาท
6.โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร-ท่องเที่ยวปากคลองจิหลาด รองรับการเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมตามมาตรฐานสากล(Friendly Design) จังหวัดกระบี่ งบประมาณ35 ล้านบาท และ
7.โครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จังหวัดกระบี่ โดยการปรับปรุงอาคาร ปรับปรุงภูมิทัศน์ และก่อสร้างพื้นที่นันทนาการ บริเวณน้ำพุร้อนเค็ม สู่มาตรฐานสากล งบประมาณ 49 ล้านบาท
ทั้ง 7 โครงการเร่งด่วนนี้ นายกฯมีข้อสั่งการ คือ เห็นชอบในหลักการของโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีทั้ง 7 โครงการ กรอบวงเงินรวม 494 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และให้กระทรวงมหาดไทยเสนอขอรับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป