เตือน! "ไข้หวัดนก" ระบาด หนักช่วงเปลี่ยนฤดู

17 พ.ย. 2564 | 08:31 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2564 | 15:32 น.

อธิบดีกรมปศุสัตว์แจ้งเตือนเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกระบาดในหลายประเทศใน ยุโรป – เอเชีย โดยเฉพาะในช่วงปรับเปลี่ยน จาก “ฤดูฝน” เป็น “ฤดูหนาว” ทำให้สัตว์ปีกเกิดความเครียด ระดับภูมิคุ้มกันต่ำมีโอกาสเกิด โรคระบาดได้

จากรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศรายงานการแพร่ระบาดของ "โรคไข้หวัดนก" ในหลายประเทศของเอเชีย เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และในหลายประเทศของยุโรป เช่น นอร์เวย์  เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเด็นที่นำมาเป็นข้อจำกัดทางการค้า อีกทั้งองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) รายงานพบการระบาดของโรคไข้หวัดนกชนิดความรุนแรงสูง (HPAI) ในต่างประเทศทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงปัจจุบัน

 

พบว่ามีการระบาด "โรคไข้หวัดนก" มากถึง 4,122 จุด รวมถึงพบการระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศเวียดนาม กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พบในสายพันธุ์ H5N1 H5N6 และ H5N8 กอปรกับประเทศไทยเข้าสู่การเปลี่ยนฤดูกาล จาก "ฤดูฝน" เป็น "ฤดูหนาว" ทำให้สัตว์ปีกเกิดความเครียด ระดับภูมิคุ้มกันต่ำมีโอกาสเกิดโรคระบาดได้

 

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การป้องกันที่ดีถือเป็นหัวใจของความสำเร็จที่ทำให้ไทยปลอดจากไข้หวัดนกมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ทั้งในคนและสัตว์จากการที่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกทั่วประเทศจัดการระบบความปลอดภัยทางชีวภาพอย่างเคร่งครัด การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนและบริเวณโดยรอบ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มเข้มงวดเรื่องระบบความปลอดภัยภายในฟาร์ม

 

ควบคุมการเข้า-ออกฟาร์ม ให้ฉีดพ่นยานพาหนะทุกคัน เมื่อได้รับแจ้งหรือพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ หรือมีอาการต้องสงสัยเหมือนนิยามโรคไข้หวัดนก เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ก็ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินมาตรการควบคุมโรคทันที รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง”

ที่สำคัญ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการเฝ้าระวังโรคสัตว์ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกสังเกตอาการสัตว์อย่างใกล้ชิด  หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่านำสัตว์ปีกไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือนำไปประกอบอาหารโดยเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที

 

เพื่อจะได้เร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน  หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอหรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้บ้าน  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ (สคบ.) กรมปศุสัตว์ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร. 063-225-6888 หรือแจ้งผ่าน Application: DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวในที่สุด