เข้าสู่เดือนที่10 ของปี2564 แล้ว สำหรับการส่งออกไทยซึ่งตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์แถลงโชว์ ส่งออกไทยเดือนตุลาคมซึ่งขยายตัวถึง17.4% เป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งถือว่าการส่งออกไทยยังคงมีทิศทางที่สดใสแม้ว่าจะมีปัจจัยลบรุมเร้าก็ตามโดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่ส่งผลให้การทำธุรกิจต่างๆชะงักออกไปทั่วทั้งโลก ดังนั้น 2 เดือน ที่เหลือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงมีความมั่นอกมั่นใจว่า จะสามารถผลักดันส่งออกไทยให้ขยายตัวได้15-16% มากกว่าเป้าที่4%ที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปี จากที่ไม่กล้าฟันธงว่าทั้งปีส่งออกไทยจะขยายตัวเท่าไหร่
อย่างไรก็เพื่อให้ผู้ประกอบการได้วางแผนผลิตและมองหาตลาดส่งออกในปีหน้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.)ได้ทำการประเมินตลาดส่งออกสำคัญๆของไทยและจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกปรับดีขึ้นพบว่า
ตลาดสหรัฐฯ ขยาย 16.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 17 เดือน และสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ โทรทัศน์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และโทรศัพท์และอุปกรณ์ เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 20%
ตลาดจีน ขยายตัว14.1% เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ยางพารา เคมีภัณฑ์ ผลไม้สด แช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และทองแดง เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว26.1 %
ตลาดอาเซียน (5) ขยายตัว 39.7% เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย รถยนต์และส่วนประกอบ อากาศยานและส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว14.9%
ตลาด CLMV ขยายตัว 19.8% เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และรถยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 15.3%
ตลาดสหภาพยุโรป (27) ขยายตัว 14% เป็นการ ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือ สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็กและผลิตภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 22.1%
ตลาดเอเชียใต้ ขยายตัว 50.4 เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมัน เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ขณะที่
10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 55.4 %
ตลาดอินเดีย ขยายตัว58.3 % เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมัน เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ขณะที่
10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 58.4%
ตลาดตะวันออกกลาง (15) ขยายตัว 33.2%เป็นการ ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 19%
ตลาดทวีปแอฟริกา (57) ขยายตัว 38.8%เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว เครื่องยนต์สันดาป รถยนต์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป และเม็ดพลาสติก เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 25.7%
ตลาดลาตินอเมริกา (47) ขยายตัว14.1% เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาป ยางพารา เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเม็ดพลาสติก เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว38.3%
ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ขยายตัว 78.8% เป็นการขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อากาศยานและส่วนประกอบ รถยนต์และส่วนประกอบ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง และเครื่องยนต์สันดาป เป็นต้น ขณะที่ 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัว 30.1%
ส่วนตลาดญี่ปุ่นและตลาดทวีปออาสเตรเลีย(25) นั้นแม้ว่าจะติดลบ แต่ยังเป็นการติดลบที่เล็กน้อย โดย ตลาดญี่ปุ่น ติดลบ2% ซึ่งเป็นการติดลบในรอบ12เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ
ไก่แปรรูป และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ด้านสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์ ทองแดง และเม็ดพลาสติก เป็นต้น แต่ภาพรวม 10 เดือนแรกของปี 2564 กลับขยายตัว 11.7%
ตลาดทวีปออสเตรเลีย (25) ติดลบ7.3% โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ ด้านสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ เม็ดพลาสติก เหล็กและผลิตภัณฑ์ และน้ำมันสำเร็จรูป แต่ภาพรวม 10 เดือนแรกของปี 2564 กลับขยายตัว 12.5%