นายธันวา เทศแย้ม และนาย กิตติเดช เทศแย้ม เยาวชนตัวแทนสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชาวประมงผู้ริเริ่มแคมเปญ "ซูเปอร์มาร์เก็ต: เลิกขายสัตว์น้ำที่ยังไม่โตเต็มวัย เพราะอาหารทะเลกำลังจะ #หมดแล้วจริงๆ" พร้อมตัวแทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยกว่า 40 คน
นำรายชื่อผู้บริโภค 12,602 รายที่ร่วมลงชื่อผ่านเว็บไซต์ Change เดินทางไปยื่นรายชื่อผู้บริโภคเพื่อเรียกร้องให้ 8 ซูเปอร์มาร์เก็ต รายใหญ่ ประกอบด้วย โลตัส แม็คโคร ซีพีเฟรชมาร์ท บิ๊กซีท็อปส์ ฟู๊ดแลนด์ กูร์เมต์ วิลล่ามาร์เก็ต เพื่อเรียกร้องให้เลิกขายสัตว์น้ำวัยอ่อน
นายธันวา เทศแย้ม เปิดเผยว่า "ในวิกฤตวันนี้ที่คนส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่ด้วยความกลัว ต้องดิ้นรนหาทางรอด แต่ไม่รู้จะไปหาความปลอดภัยจากไหน ผมเสียใจที่ต้องบอกว่ายังมีอีกอย่างในชีวิตพวกผมและคนไทยทุกคนที่กำลังจะ #หมดแล้วจริงๆ
ผมสองคนเป็นชาวประมงมาเกือบสิบปีแล้ว อาชีพนี้ส่งจากรุ่นสู่รุ่น แม้จะไม่รวยอะไรแต่ก็ไม่ต้องกลัวอด แต่หลายปีมานี้ความกลัวกัดกร่อนใจพวกผม เพราะคนไทยหันมากินตัวอ่อนของสัตว์น้ำ ตัดวงจรขยายพันธุ์ ทำให้อาหารในทะเลไทยหายไปเรื่อยๆ จับอะไรก็ไม่ค่อยได้
อาหารทะเลแพงขึ้นทุกวัน หมึกกับปลาทูที่ราคาเคยถูก คนไม่รวยก็ซื้อกินได้ ตอนนี้มันแพงหมดแล้ว เพราะต้องส่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ผู้บริโภคหาอาหารทะเลดีๆ กินยาก เพราะมันจะหมดทะเลแล้วครับ
พ่อเล่าว่าสมัยหนุ่มออกเรือจากฝั่งไม่นานก็จับปลาทูได้เพียบ แต่เราไม่เคยมีโอกาสสัมผัสทรัพยากรอุดมสมบูรณ์แบบรุ่นพ่อ เพราะทุกวันนี้ปลาทูเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มักจะโดนจับตั้งแต่ยังไม่โต ผลก็เป็นอย่างที่เห็นคือทะเลในรุ่นเราแทบไม่มีปลาทูเหลือ ผมอยากให้คนเมืองเห็นอย่างที่ผมเห็น จะได้เข้าใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับทุกคนและด่วนแล้วจริงๆ กว่าคนส่วนใหญ่จะเริ่มรู้ว่าทะเลไทยหายนะ คนที่โดนไปแล้วคือคนรายได้น้อยและชาวประมงพื้นบ้านอย่างผม แต่สุดท้ายทุกคนก็จะได้รับผลกระทบ เพราะอาหารจะหมดจากทะเลไทย
พวกผมและพ่อปวดใจทุกครั้งเวลาไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมือง เพราะเห็นสัตว์ทะเลวัยอ่อน ตัวเล็กไม่ได้ขนาด อย่างหมึกกระตอย ปลาข้าวสาร ปลาสายไหม จาระเม็ดเด็ก หรือปูไข่ วางขายกันหรา คนหยิบซื้อกันเหมือนไม่รู้ว่านี่คือการทุบตู้กับข้าวและความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของ
ซูเปอร์ฯ หรือคนซื้อเองอาจยังไม่รู้ แต่ผมอยากให้เข้าใจว่าอาหารทะเลที่ซื้อขายอยู่นั่นบางส่วนคือตัวอ่อนสัตว์ทะเลที่ยังไม่ทันได้ออกลูกก็โดนลากออกจากทะเลไทย รวมแล้วปีละกว่า 3 แสนตัน ทำให้สัตว์น้ำค่อยๆ หมดไปจากทะเล ไม่ใช่เฉพาะชนิดที่นิยมจับกินกันอย่าง เก๋า กุเลา อินทรี แต่ซวยถึงเต่าทะเล พะยูน โลมา วาฬ ด้วย เพราะมันไม่มีอะไรให้จับกิน จำนวนสัตว์น้ำโดยรวมก็ร่อยหรอลง ระบบนิเวศน์พังกลายเป็นวิกฤตทะเลไทยที่พวกผมเห็นกับตาอยู่ทุกวัน
ถ้าซูเปอร์ฯ ทั่วประเทศยังขายและคนยังซื้อสัตว์ทะเลวัยอ่อนกันต่อไป อีกไม่นานพวกผมและชาวประมงตามหมู่บ้านต่างๆ คงต้องหาอาชีพใหม่ ทิ้งเรือไว้ให้ร้าง และคนไทยก็จะไม่มีอาหารทะเลไทยกินกัน หมึกย่างลวกจิ้มซีฟู๊ด ปลาทูนึ่ง ต้มยำกุ้ง ข้าวต้มปลาเค็ม #หมดแล้วจริงๆ ครับ เรามีแหล่งอาหารที่ดีอยู่แล้ว เราน่าจะช่วยกันรักษาไว้
ผมอยากขอให้ทุกคนที่เข้าใจช่วยกันบอกซูเปอร์ฯ ด้วยการลงชื่อในแคมเปญนี้ ว่าเลิกขายสัตว์น้ำวัยอ่อนซะที ถ้าซูเปอร์ฯที่มีอยู่ทั่วประเทศรวมกันหลายพันสาขาเลิกขาย ก็จะช่วยตัดตอนวงจรระหว่างคนจับและคนซื้อไปได้มหาศาล
พวกเราชาวประมงขอคนละชื่อจากผู้บริโภคได้มั้ยครับ อย่าคิดว่าเป็นคนซื้อไม่มีบทบาทอะไร ผมยังจำได้ว่าโลตัส แมคโคร ซูเปอร์ฯ เครือเซ็นทรัล เดอะมอลล์ และวิลล่ามาร์เก็ต ทำตามเสียงผู้บริโภคที่ขอให้ ยกเลิกขายปลานกแก้ว และไม่นานมานี้ Shoppee กับ Lazada ก็ ประกาศยกเลิกขายลูกปลาทูและสัตว์น้ำวัยอ่อน ตามที่โดนเรียกร้อง
ถ้าซูเปอร์ฯ ฟังเสียงพวกเราในครั้งนี้ ร้านเล็กๆ ก็จะมีแรงจูงใจหันมาทะยอยทำตามยักษ์ สัตว์น้ำทะเลจะค่อยๆ เพิ่มปริมาณ คนไทยก็จะมีอาหารทะเลดีๆ กินในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ไม่ต้องกลัวอดในอนาคต
ส่วนชาวประมงที่จับต้นทางอาจได้รับผลกระทบบ้างถ้าห้างเลิกซื้อ แต่เขาก็จะหันไปจับอาหารทะเลด้วยวิธีที่ยั่งยืนมาขายให้ห้างได้ เช่น ตั้งกลุ่มประมงยั่งยืนอย่างที่พวกผมทำ หันมาจับตามฤดูกาล จับเฉพาะสัตว์ทะเลที่ไม่เด็กเกินไป และจับด้วยเครื่องมือเฉพาะสำหรับสัตว์แต่ละชนิดเท่านั้น เช่น อวนกุ้ง อวนปูม้า ไม่ใช้อวนตาถี่หรือใช้วิธีที่กวาดล้างทะเล
ผมสองคนพี่น้องอยากให้ช่วยกันรักษาทะเลไทยของเราทุกคนไว้ พวกผมอยากจับปลาให้ทุกคนกินกันต่อไป แต่คงทำไม่ได้ถ้าทะเลไทยกำลังจะตาย “หนึ่งเสียงที่ลงชื่อคือการปกป้องทะเล” ขอให้ทุกคนบอกซูเปอร์ฯ อย่าขายสัตว์นำวัยอ่อน จนอาหารทะเลและทรัพยากรไทยไม่เหลือ ขอ #อย่าให้หมดที่รุ่นเรา นะครับ