คณะกรรมการร่วมฯ 3 สถาบัน (กกร.) ประชุมประจำเดือนธันวาคม 2564โดย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานอุตสาหกรรม(ส.อ.ท.)
โดยนายสนั่นกล่าวภายหลังการประชุมว่า กกร.เพิ่งได้รับแจ้งจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เรื่อง ร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่องให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาพ.ศ. ... ซึ่งการกำหนด ฟังความเห็นประชาพิจารณ์(เฮียร์ริ่ง) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 มีประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ 20%
“โดยรวมทุกคนต้องการดูแลผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนรากฐานได้มีอาชีพ เราก็สนับสนุนดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว แต่กรณีที่เป็นต้นทุนผู้ประกอบการหรือการปล่อยสินเชื่อต่ำกว่าต้นทุนก็ไม่อยากปล่อย ในส่วนนี้ เราจึงเป็นคนกลางไปดูข้อมูลเชิงลึกและคงจะพูดคุยกับภาครัฐอีกเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ
โจทย์เราไม่ได้ดูแลเฉพาะผู้ประกอบการอย่างเดียว แต่ตรงนี้หากมีการเรียกหลักประกันมากขึ้นอาจทำให้คนกู้ไม่ได้ก็ต้องไปกู้นอกระบบ”
นายสุพันธุ์ระบุเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ สคบ.ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยลิสซิงหรือเช่าซื้อ15%ต่อปี ซึ่งภายหลังการหารือ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทางสคบ.ได้ปรับปรุงรายละเอียดของร่างแก้ไขฯ หลายมิติ ซึ่งเป็นที่ยอมรับได้
แต่ในประเด็นอัตราดอกเบี้ยนั้น ภาคเอกชนได้มีข้อเสนอแยกไปเป็นรถยนต์มือสองอัตราดอกเบี้ย 24%ต่อปี และรถมอเตอร์ไซด์อัตราดอกเบี้ย 36%ต่อปี แต่ปรากฎว่าร่างแก้ไขที่จะทำเฮียร์ริ่งครั้งที่ 2 ประเด็นสำคัญคือ เรื่องกำหนดกรอบดอกเบี้ยรวมกันเป็น 20%ต่อปี
ทั้งนี้ เรื่องลีสซิ่งที่สคบ.จะควบคุมอัตราดอกเบี้ยนั้น ได้มีการหารือกันเรื่องรถยนต์เก่า และมอเตอร์ไซด์ ซึ่งกรอบดอกเบี้ยที่อัตรา 20%นั้นค่อนข้างต่ำ เพราะจากหารือผู้ประกอบการลีสซิ่ง โดยเฉพาะมอเตอร์ไซด์มีอัตราสูญเสียสูงประมาณ 37% กรณีที่ผู้ซื้อไม่สามารถผ่อนชำระต่อเนื่อง
หากสคบ.ใช้อัตราดอกเบี้ยที่ 20%จะทำให้การปล่อยสินเชื่อมอเตอร์ไซด์ถูกกระทบจะสาเหตุหากเกิดปัญหาค้างชำระจนเข้าสู่กระบวนการติดตามและยึด เหล่านี้เป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันนอกจากทำให้ผู้กู้เข้าไม่ถึงสินเชื่อแล้ว ยังเป็นความเสี่ยงของผู้ที่ใช้รถมอเตอร์ไซด์ประกอบอาชีพ และการผลิตที่จะทำหใรถมอเตอร์ไซด์หายไปจากระบบหลายล้านคัน
“กรอบที่สคบ.วางอัตราดอกเบี้ยให้ที่ 20%นั้นเป็นสิ่งที่เรากังวลต่อeffect ต่อตลาดเปลี่ยนไปมาก ทำให้ธุรกิจมอเตอร์ไซด์ลดน้อยลง โดยเฉพาะผู้ประกอบการท้องถิ่นและกระทบผู้ซื้อมอเตอร์ไซด์ด้วย”
นายผยง กล่าวว่า ประเด็นนี้อยู่ระหว่างหารือกับทางสคบ. โดยเกณฑ์ที่ทางสคบ.กำหนกดนั้นกระทบความสามารถในการให้บริการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการมีรถ ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อให้เกิดต้นทุนที่เป็นธรรม ในมุมกกร.ห่วงกระทบซัพพลายเชน สิ่งสำคัญ คนต้องการฟื้นตัวจากโควิด แต่ในกลไกมีหลายมิติในร่างแก้ไขฉบับดังกล่าว และมีกฎกติกาชัดเจน เช่น รถคืนจบหนี้ไม่มีให้เรียกค่าสินไหมไปหมุนดอกเบี้ยต่อไม่ได้
“ รายละเอียดหลายเรื่องเราเห็นด้วย แต่บางมิติ ซึ่งคนที่เข้าถึงรากหญ้ก็เป็นลิสซิ่งท้องถิ่น ซัพพลายเชน เข้าใจว่าประเด็นนี้รัฐบาลเร่งดำเนินการอยู่เราจึงดึงเรื่องนี้มาหารือ สิ่งที่เรากังวลคือ จะไม่ตอบโจทย์กระบวนการทั้งห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งอาจจะกระทบซัพพลายเชนการผลิตหรือการถ่ายโอนถึงผู้บริโภคและระบบหากไม่ได้พิจารณาอย่างครบถ้วน ซึ่งอันนี้เป็นประเด็นที่กกร.จะเข้าเรียนหารือรองนายกสุพัฒนพงษ์อีกครั้ง”