thansettakij
เช็คเงินเยียวยาเกษตรกร 2564 ส่วนต่างประกันรายได้ข้าว-ยาง สรุปครบจบที่นี่

เช็คเงินเยียวยาเกษตรกร 2564 ส่วนต่างประกันรายได้ข้าว-ยาง สรุปครบจบที่นี่

09 ธ.ค. 2564 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2564 | 12:33 น.

เช็คเงินเยียวยาเกษตรกร 2564 ส่วนต่างประกันรายได้ข้าว-ยาง หลัง ธ.ก.ส.คิกออฟจ่ายเงินส่วนต่าง ให้กับเกษตรกรเริ่มจากงวดที่เท่าไหร่เช็คที่นี่ม้วนเดียวจบ

จากกรณีที่วันนี้ (9 ธ.ค.) เป็นวันแรกที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เริ่มโอนเงินเยียวยาให้กับเกษตรกร สำหรับโครงการประกันรายได้ข้าว และ ยางพารา จากผลกระทบภัยพิบัติธรรมชาติ

 

ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า  หรับประกันรายได้ข้าวและยางนั้น รัฐบาลได้ค้างจ่ายเงินส่วนต่างที่จะต้องจ่ายให้กับเกษตรกร เพื่อชดเชยกับราคาตลาดที่ไม่ถึงรายได้ที่ประกัน สำหรับการจ่ายส่วนต่างข้าว ที่ค้างจ่าย 5 งวด และยางที่ค้างจ่าย 2 งวด นั้นซึ่งหลังจากมีการขยายเพดานเงินกู้เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 35% สามารถนำเงินที่มีอยู่มาจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับยางพาราได้

ไทม์ไลน์จ่ายเงินส่วนต่างข้าว มีดังนี้

 

  • สำหรับการจ่ายส่วนต่างข้าว ปีที่ 3 เงินที่เกษตรกรจะได้รับ มี 3 ก้อน  ก้อนที่1 เป็น เงินส่วนต่างที่งวดที่ 1-2 กับงวดที่ 3 บางส่วน ได้จ่ายให้กับเกษตรกรไปแล้ววงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท ส่วนงวดที่ 3 ที่เหลือ จะมาจ่ายให้ครบโดยเริ่มจ่ายวันนี้ (9 ธ.ค. 2564) โดยจ่ายงวดที่ค้างอยู่ 5 งวดพร้อมกัน คือ งวดที่ 3 บางส่วนและงวด 4-7 รวมเป็นเงิน 64,847 ล้านบาท ส่วนงวดที่ 8 จะจ่ายวันที่ 14 ธ.ค.เป็นเงิน 3,720 ล้านบาท  และงวดที่ 9-33 จะทยอยจ่ายทุก 7 วันจนครบ โดยงวดสุดท้าย วันที่ 27 พ.ค. 2565

 

 

เกษตรกรครัวเรือนที่ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด ดังนี้

  • สำหรับผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ สูงสุด 58,988 บาท 
  • ข้าวหอมนอกพื้นที่สูงสุด 60,086 บาท
  • ข้าวหอมปทุม สูงสุด 36,358 บาท
  • ข้าวเปลือกจ้าว สูงสุด 67,603 บาท
  • ข้าวเหนียว 71,465 บาท
  • ช่วยชาวนาได้ประมาณ 4.7 ล้านครัวเรือน

 

 

  • เงินก้อนที่2

คือ เงินในมาตรการคู่ขนานซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางเป็นเวลา 5 เดือนเพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากจนเกินไป ช่วยตันละ 1,500 บาท หรือสหกรณ์เก็บไว้จะช่วยตันละ 1,500 บาท และช่วยเหลือดอกเบี้ย ถ้าสหกรณ์เก็บข้าว 12 เดือน ช่วยดอกเบี้ย 3% ถ้าโรงสี เก็บข้าว 6 เดือน จะช่วยดอกเบี้ย 3% เพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากเกินไปและไปกดราคาข้าวในตลาด

 

 

  • และก้อนที่ 3

คือ เงินช่วยค่าบริหารจัดการหรือปรับปรุงคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท โดยจ่ายวันที่ 13 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป เป็นเงิน 53,871 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.7 ล้านครัวเรือน

 

ราคาอ้างอิงส่วนต่างประกันราคาข้าว และ ยางพารา ราคาอ้างอิงส่วนต่างประกันราคาข้าว และ ยางพารา

ส่วนชาวนาที่น้ำท่วมเสียหายจะได้เงินอีกก้อนหนึ่ง คือ เงินชดเชยความเสียหายจากอุทกภัยหรือภัยธรรมชาติโดยชาวนาที่ปลูกข้าวแล้วน้ำท่วม จะยังได้รับเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าว เพราะขอให้ปลูกจริง ไปขึ้นทะเบียนแม้พืชผลจะเสียหายเพราะภัยธรรมชาติจะยังได้รับเงินช่วยเหลือส่วนต่างเช่นกัน

 

 

สำหรับยางพาราจะเริ่มจ่ายงวดที่ 1-2 ในวันนี้ ( 9 ธ.ค. 2564) เช่นเดียวกัน โดยงวดที่ 1 วงเงินประมาณ 900 ล้านบาท งวดที่ 2 วงเงิน 540 ล้านบาท รวม 1,440 ล้านบาทโดยประมาณ และจะจ่ายงวดที่ 3-6 ทุกเดือนจนถึงเดือน เม.ย. 2565 โดยงวดที่ 3 จะเริ่มจ่ายวันที่ 7 ม.ค. 2565 วงเงิน 8,626 ล้านบาท  สำหรับยางพารามีเงินเตรียมไว้  10,065 ล้านบาท

 

 

โดยวงเงินสูงสุดที่ได้รับเฉพาะงวดที่ 1-2ยางแผ่นดิบสูงสุด 3,835 บาทต่อครัวเรือนน้ำยางข้น 2,975 บาท และยางก้อนถ้วยจะไม่ได้รับเงินส่วนต่าง ที่ผ่านมายางราคาดีกว่าช่วงก่อน สำหรับน้ำยางข้น ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 57 บาท ตอนนี้ราคาไปกิโลกรัมละ 60 บาทแล้ว ยางก้อนถ้วย ประกันที่กิโลกรัมละ 23 บาท ตอนนี้ 25-26 บาทแล้วภาคอีสานมากกว่าภาคใต้ 1 บาทเพราะอยู่ใกล้แหล่งการส่งออก ซึ่งยางก้อนถ้วยราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกันมาเป็นปีแล้ว

 

 

“วันนี้ถือเป็นวัน Kick Off การจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและผู้ปลูกยางพาราพร้อมกัน โดยพืชอีก 3 ชนิดสูงกว่ารายได้ที่ประกันแล้ว สำหรับข้าวโพด ประกันรายได้ที่ 8.50 บาท ตอนนี้ 9.60 บาท ปาล์มน้ำมันประกันที่ 4 บาท ตอนนี้ราคา 8-9 บาทและมันสำปะหลังประกันที่ 2.50 บาท ก็ไป 2.50-2.70 บาท  ตอนนี้ราคาพืชเกษตรที่ประกันดีราคาเกือบทุกตัว ยกเว้นข้าวแต่ปีก่อนราคาข้าวดีพอสมควร แตะ 10,000 บาทสำหรับข้าวเปลือกเจ้า”.

 

ที่มา: ธ.ก.ส.