จากกรณีที่วันนี้ (9 ธ.ค.) เป็นวันแรกที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เริ่มโอนเงินเยียวยาให้กับเกษตรกร สำหรับโครงการประกันรายได้ข้าว และ ยางพารา จากผลกระทบภัยพิบัติธรรมชาติ
ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หรับประกันรายได้ข้าวและยางนั้น รัฐบาลได้ค้างจ่ายเงินส่วนต่างที่จะต้องจ่ายให้กับเกษตรกร เพื่อชดเชยกับราคาตลาดที่ไม่ถึงรายได้ที่ประกัน สำหรับการจ่ายส่วนต่างข้าว ที่ค้างจ่าย 5 งวด และยางที่ค้างจ่าย 2 งวด นั้นซึ่งหลังจากมีการขยายเพดานเงินกู้เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 35% สามารถนำเงินที่มีอยู่มาจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกับยางพาราได้
ไทม์ไลน์จ่ายเงินส่วนต่างข้าว มีดังนี้
เกษตรกรครัวเรือนที่ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด ดังนี้
คือ เงินในมาตรการคู่ขนานซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่เข้าร่วมโครงการ เช่น เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางเป็นเวลา 5 เดือนเพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากจนเกินไป ช่วยตันละ 1,500 บาท หรือสหกรณ์เก็บไว้จะช่วยตันละ 1,500 บาท และช่วยเหลือดอกเบี้ย ถ้าสหกรณ์เก็บข้าว 12 เดือน ช่วยดอกเบี้ย 3% ถ้าโรงสี เก็บข้าว 6 เดือน จะช่วยดอกเบี้ย 3% เพื่อไม่ให้ข้าวออกสู่ตลาดมากเกินไปและไปกดราคาข้าวในตลาด
คือ เงินช่วยค่าบริหารจัดการหรือปรับปรุงคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท โดยจ่ายวันที่ 13 ธ.ค. 2564 เป็นต้นไป เป็นเงิน 53,871 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.7 ล้านครัวเรือน
ส่วนชาวนาที่น้ำท่วมเสียหายจะได้เงินอีกก้อนหนึ่ง คือ เงินชดเชยความเสียหายจากอุทกภัยหรือภัยธรรมชาติโดยชาวนาที่ปลูกข้าวแล้วน้ำท่วม จะยังได้รับเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าว เพราะขอให้ปลูกจริง ไปขึ้นทะเบียนแม้พืชผลจะเสียหายเพราะภัยธรรมชาติจะยังได้รับเงินช่วยเหลือส่วนต่างเช่นกัน
สำหรับยางพาราจะเริ่มจ่ายงวดที่ 1-2 ในวันนี้ ( 9 ธ.ค. 2564) เช่นเดียวกัน โดยงวดที่ 1 วงเงินประมาณ 900 ล้านบาท งวดที่ 2 วงเงิน 540 ล้านบาท รวม 1,440 ล้านบาทโดยประมาณ และจะจ่ายงวดที่ 3-6 ทุกเดือนจนถึงเดือน เม.ย. 2565 โดยงวดที่ 3 จะเริ่มจ่ายวันที่ 7 ม.ค. 2565 วงเงิน 8,626 ล้านบาท สำหรับยางพารามีเงินเตรียมไว้ 10,065 ล้านบาท
โดยวงเงินสูงสุดที่ได้รับเฉพาะงวดที่ 1-2ยางแผ่นดิบสูงสุด 3,835 บาทต่อครัวเรือนน้ำยางข้น 2,975 บาท และยางก้อนถ้วยจะไม่ได้รับเงินส่วนต่าง ที่ผ่านมายางราคาดีกว่าช่วงก่อน สำหรับน้ำยางข้น ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 57 บาท ตอนนี้ราคาไปกิโลกรัมละ 60 บาทแล้ว ยางก้อนถ้วย ประกันที่กิโลกรัมละ 23 บาท ตอนนี้ 25-26 บาทแล้วภาคอีสานมากกว่าภาคใต้ 1 บาทเพราะอยู่ใกล้แหล่งการส่งออก ซึ่งยางก้อนถ้วยราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกันมาเป็นปีแล้ว
“วันนี้ถือเป็นวัน Kick Off การจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและผู้ปลูกยางพาราพร้อมกัน โดยพืชอีก 3 ชนิดสูงกว่ารายได้ที่ประกันแล้ว สำหรับข้าวโพด ประกันรายได้ที่ 8.50 บาท ตอนนี้ 9.60 บาท ปาล์มน้ำมันประกันที่ 4 บาท ตอนนี้ราคา 8-9 บาทและมันสำปะหลังประกันที่ 2.50 บาท ก็ไป 2.50-2.70 บาท ตอนนี้ราคาพืชเกษตรที่ประกันดีราคาเกือบทุกตัว ยกเว้นข้าวแต่ปีก่อนราคาข้าวดีพอสมควร แตะ 10,000 บาทสำหรับข้าวเปลือกเจ้า”.
ที่มา: ธ.ก.ส.