วันที่ 9 ธันวาคม 2564ความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65หรือ "ประกันราคาข้าว" เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 64 ที่ประชุมมติคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. อนุมัติวงเงินรวม 76,080.95 ล้านบาท 1. ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 เพิ่มเติม และ 2. "เงินช่วยเหลือชาวนา" ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดได้รับเงิน 2 หมื่นบาท วงเงิน 54,972.72 บาท รวมวงเงิน 131,053.67 ล้านบาท จำนวนเกษตรกรที่จะได้รับประโยชน์ กว่า 4.6 ล้านราย เกษตรกร สามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้ที่ลิ้งค์ https://chongkho.inbaac.com/
นายธีร์วริศ พรพันธวิศ นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน และ ในฐานะคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ" วันนี้ "โครงการประกันรายได้ข้าว" มาถึง (งวดที่ 9) แล้ว ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 สำหรับความเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นเกิน15% ดังนี้
สำหรับการชดเชยส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" ระหว่างราคาเกณฑ์อ้างอิง ราคาข้าวชนิดต่างๆ ย้อนหลัง 7 วัน ทำการ (22-30 ธ.ค.63) ความชื้นไม่เกิน 15% โดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ประมาณการชดเชยรายได้ให้เกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 3-9 ธันวาคม 2564 วงเงิน 790.22 ล้านบาท
1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยส่วนต่าง ตันละ 3,850.94 บาท
2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยส่วนต่าง ตันละ 3,174.97 บาท
3.ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยส่วนต่าง ตันละ 1,113.13 บาท
4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ส่วนต่างตันละ 1,921.61 บาท
5.ข้าวเปลือกเหนียว ส่วนต่าง ตันละ 3,505.01 บาท
นายธีร์วริศว่า เมื่อเปรียบเทียบราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่คำนวณได้ในงวดที่9 เปรียบเทียบกับงวดที่8 พบว่าราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ด้าน นายวิชัย ชิตยวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย ในคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว กล่าวว่าในที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ทำตามสัญญา เดินหน้านโยบายประกันรายได้ข้าวต่อเนื่อง
เกษตรกร ชาวนา ตรวจสอบสถานะการโอนเงิน https://chongkho.inbaac.com
แนบประกันรายได้ข้าว งวด 9