นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมด้วย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้รถควันดำ
ตามนโยบายของรัฐบาลที่เข้มงวดการตรวจจับรถควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” และบังคับใช้บทลงโทษสูงสุด เพื่อลดฝุ่น PM2.5 ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคโดยเฉพาะเมืองหลัก ณ บริเวณถนนกัลปพฤกษ์ เขตบางแค กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่8 ธันวาคม 2564ที่ผ่านมา
นายธีรภัทร กล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลง เป็นช่วงที่มีปัญหามลพิษ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีสาเหตุมาจากยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหามลพิษที่เกิดขึ้น ซึ่งในช่วงนี้คุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
เริ่มน่าเป็นห่วง เนื่องจากสภาพอากาศปิด ลมสงบนิ่ง โดยในวันนี้ได้มีการดำเนินงานตรวจจับรถควันดำ ซึ่งเริ่มตรวจรถในภาพรวมทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นมา ซึ่งมีจำนวนรถประมาณ 18,000 คัน ที่มีค่าควันดำเกินค่ามาตรฐาน มีการห้ามใช้ไปแล้วจำนวน 612 คัน
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการติดตั้งจุดตรวจควันดำตามถนนสายหลักหลายสาย และมีโครงการไปตรวจจุดจอดรถบรรทุกขนาดใหญ่และขนาดเล็กให้ประชาชนได้ตระหนักว่าการใช้รถยนต์ควันดำมีผลต่อสุขภาพ นอกจากนี้แล้ว ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ยังได้ดำเนินการเปิดศูนย์ส่วนหน้าที่เชียงใหม่ในวันที่ 9 ธ.ค. 64
เพื่อเตรียมความพร้อมในการลดการเผาในที่โล่งโดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรกรรม โดยทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในส่วนการดำเนินงานต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการลดมลพิษทางอากาศให้ได้มาก ช่วยกันเฝ้าระวัง และขอความร่วมมือในการตรวจสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตฝุ่นก็ให้ใช้รถเท่าที่จำเป็น เพื่อที่จะช่วยกันลดมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะในเขตเมือง
นายชัยรัตน์ พรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ปัจจุบันได้มีมาตรการการตรวจวัดควันดำที่เข้มข้นมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่น PM2.5 โดยมีการติดตั้งจุดตรวจวัดควันดำทั้งขาเข้า-ขาออก ของถนนสายหลักในกรุงเทพและปริมณฑล และจะมีการขยายจุดตรวจวัดไปทั่วทุกจังหวัดต่อไป
ผลการตรวจควันดำรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล จำนวน 51 คัน พบว่าเป็นรถยนต์ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 จำนวน 34 คัน พบค่าควันดำเกินมาตรฐาน 5 คัน และรถยนต์ตาม พ.ร.บ ขนส่ง พ.ศ. 2522 จำนวน 17 คัน พบค่าควันดำเกินมาตรฐาน 2 คัน