ประกันรายได้ยางเฟส 3 ล่าสุดวันนี้ เกษตรกร ตรวจสอบสถานะ chongkho.inbaac.com

13 ธ.ค. 2564 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2564 | 10:57 น.

ประกันรายได้ยางเฟส 3 ล่าสุดวันนี้ ธ.ก.ส.เริ่มโอนให้เกษตรกรชาวสวนยางแล้ว อย่าลืมตรวจสอบสถานะโอนเงิน chongk.inbaac.com พร้อมเช็คหลักเกณฑ์เงื่อนไขรายละเอียดด่วนที่นี่

จากกรณีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564  เห็นชอบให้ดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 ใช้วงเงินรวมงบประมาณทั้งสิ้น 10,065,687,645.28 บาท หรับเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท. ) ทั้งบัตรสีเขียว และบัตรสีชมพู

 

 

สำหรับเกษตรกรชาวสวนยาง ที่แจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยาง กับ กยท. ภายในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 จำนวน 1,880,458 ราย เกษตรกรชาวสวนยาง เช็กสิทธิ์ ผ่านลิงค์ https://www.raot.co.th/gir/index/ 

 

ตรวจสอบสถานะ

 

และตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้ https://chongkho.inbaac.com/ ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

ธ.ก.ส.

ล่าสุด ธ.ก.ส. เริ่มจ่ายเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 แก่เจ้าของสวนยางและคนกรีดยาง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้และบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ อันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยประกันราคายางพาราแผ่นดิบ 60 บาท/กก. น้ำยางสด 57 บาท/กก. และยางก้อนถ้วย 23 บาท/กก. เป้าหมายเกษตรกร 1.88 ล้านราย วงเงินกว่า 9,700 ล้านบาท โดยโอนเงิน 2 งวดเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงแล้วกว่า 381,000 ราย เป็นเงินกว่า 739 ล้านบาท

 

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งเสนอโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้ที่แน่นอนจากการประกันรายได้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางตกต่ำ อันเนื่องมากจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัญหาภัยธรรมชาติ และช่วยสร้างความมั่นคงในอาชีพ

 

 

 

นายกษาปณ์ เงินรวง

เป้าหมายเกษตรกร 1.88 ล้านราย พื้นที่สวนยางกว่า 19.16 ล้านไร่ วงเงินงบประมาณ 9,783.61 ล้านบาท โดยประกันรายได้ตามการผลิตแต่ละประเภท ได้แก่ ยางพาราแผ่นดิบคุณภาพดี ประกันราคา 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) ประกันราคา 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ประกันราคา 23 บาท/กิโลกรัม กำหนดระยะเวลาประกันรายได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน (เดือนตุลาคม 2564 – มีนาคม 2565) โดย ธ.ก.ส. ได้เริ่มโอนเงินประกันรายได้ดังกล่าว สำหรับงวดเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2564 ไปแล้วกว่า 739 ล้านบาท แก่เกษตรกรจำนวน 381,480 ราย

 

 

สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ เกษตรกรชาวสวนยางต้องขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่การปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) โดยเป็นสวนยางพาราอายุ 7 ปีขึ้นไป ที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ กำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ ผลผลิตยางแห้ง (DRC 100%) จำนวน 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน และผลผลิตยางก้อนถ้วย (DRC 50%) จำนวน 40 กิโลกรัม/ไร่/เดือน ทั้งนี้ การยางแห่งประเทศไทยจะทำการตรวจสอบและรับรองสิทธิ์ พร้อมทั้งประมวลผล ส่งมายัง ธ.ก.ส. เพื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ซึ่งเงินค่าประกันรายได้ในแต่ละเดือน = (ราคายางที่ประกันรายได้-ราคาอ้างอิงการขาย) X ปริมาณผลผลิตยางตามเนื้อที่กรีดยาง

 

 

โดยแบ่งสัดส่วนรายได้ หากเจ้าของสวนกรีดเองจะได้รับส่วนต่างประกันรายได้ทั้งจำนวน กรณีจ้างกรีดยาง เจ้าของสวนยางจะได้ร้อยละ 60 และคนกรีดจะได้ร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด โดยมีการประกาศราคากลางอ้างอิงทุกเดือน และจะมีการจ่ายเงินเดือนละครั้ง ตั้งแต่บัดนี้ถึงเดือนกันยายน 2565 ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบการโอนเงินได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และกรณีที่เกษตรกรลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่าน LINE Official BAAC Family เมื่อเงินเข้าบัญชีของท่านแล้ว.

 

ที่มา: ธ.ก.ส.