"คมนาคม" ลุยจัดแอร์โชว์ ฟื้นอุตสาหกรรมการบินปี 65

13 ธ.ค. 2564 | 06:35 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2564 | 13:46 น.

"คมนาคม" เตรียมจัดแอร์โชว์ ปี 65 ดึงความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว หลังโควิด-19 ระบาดหนักฉุดผู้โดยสารเดินทสงลดลง 64% คาดผู้โดยสารปี 65 เพิ่มขึ้นที่ 62 ล้านคน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายในงานสัมมนาอุตสาหกรรมการบินของไทย ประจำปี 2564 เร่งขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่การบินบริบทใหม่ที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน ว่า ไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการบิน มีจุดยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน ซึ่งก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 มีผู้โดยสาร 165 ล้านคนในปี 2562 อากาศยานเข้าออก 1 ล้านเที่ยวบิน และมีการขนส่งสินค้ามากถึง 1.5 ล้านตัน

 

 

 

 "ยอมรับว่า ในปี 2563 อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินมาตรการ เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการบิน รวมทั้งมาตรการกระตุ้นความต้องการการเดินทางทางอากาศจากวิกฤติที่เกิดขึ้น อาทิ มาตรการลดค่าใช้จ่าย มาตรการทางการเงิน และมาตรการผ่อนคลายกฎระเบียบ โดยได้ดำเนินการมาแล้ว 3 ระยะ และเตรียมเดินหน้ามาตรการในระยะที่ 4 (2565-2568) ต่อไป"

 

\"คมนาคม\" ลุยจัดแอร์โชว์ ฟื้นอุตสาหกรรมการบินปี 65

 

 ที่ผ่านมาทางสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า ในอีก​ 10 ปีข้างหน้า หรือปี​ 2574 ไทยจะมีผู้โดยสารมากเป็นอันดับที่​ 9 ของโลก​ หรือมีผู้โดยสารมากกว่า​ 200 ล้านคน​ต่อปี โดยหลังจากนี้ จะต้องจัดทำแผนปฏิบัติการณ์ (Action Plan) ว่า ประเทศไทยจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อจะให้ได้รับประโยชน์จากการเดินทางและรับโอกาสที่เพิ่มขึ้น จึงต้องพิจารณาการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การใช้เทคโนโลยี, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), 5G เป็นต้น รวมถึงพิจารณาจำนวนไฟลท์บิน และการพัฒนาอาคารผู้โดยสาร (Terminal) อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส"

"ปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมการบิน คือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางลดลงมากถึง 64% โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารต่างชาติลดลงถึง 82% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และลดลงต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้ไทยจะมีปริมาณผู้โดยสารลดลง 62.7% เมื่อเทียบกับปี 2562"

 

\"คมนาคม\" ลุยจัดแอร์โชว์ ฟื้นอุตสาหกรรมการบินปี 65

 

ทั้งนี้ จากนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาลที่เริ่มต้นเมื่อ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยกระทรวงคมนาคมเน้นย้ำมาตรการรองรับการเดินทางควบคู่ตามมาตรฐานของสาธารณสุข ทำให้ผู้โดยสารในเดือน พ.ย.- ธ.ค.2564 เริ่มปรับตัวขึ้น และเชื่อว่าในปี 2565 ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารจะฟื้นตัวต่อเนื่อง และอาจจะมากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เพราะมีปัจจัยในเรื่องของวัคซีนโควิด-19 ที่มีการพัฒนาอยู่ ท้ายที่สุดจะทำให้โควิดกลายเป็นไข้หวัดที่รักษาหาย และผู้โดยสารเชื่อมั่นกลับมาเดินทาง

 

 

 

“ปีหน้าอาจต้องมีการจัดอีเวนต์นานาชาติ เพื่อให้บุคลการด้านการบินในระดับนานาชาติเข้ามารับทราบข้อมูล ความพร้อมในด้านอุตสาหกรรมการบินของไทย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และเชื่อมั่น ซึ่งผมอยากทำอีเวนต์ในแบบ Air Show คล้ายกับที่สิงคโปร์จัด อยากให้เห็นว่าไทยเป็นฮับการบินในภูมิภาคอาเซียน ตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้”

ขณะเดียวกันหากต้องการให้อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ส่วนสำคัญคือผู้ประกอบการทุกภาคส่วนต้องอยู่รอด โดยที่ผ่านมาหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ได้ออกมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบสายการบิน อาทิ มาตรการลดค่าใช้จ่าย มาตรการทางการเงิน และมาตรการผ่อนคลายกฎระเบียบ โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้ว 3 ระยะ และอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการในระยะที่ 4 ซึ่งเป็นการจัดทำแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบิน ปี 2565-2568

 

\"คมนาคม\" ลุยจัดแอร์โชว์ ฟื้นอุตสาหกรรมการบินปี 65

 สำหรับการพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการระยะที่ 4 นั้น กระทรวงฯ เชื่อว่าการจัดงานสัมมนาอุตสาหกรรมการบินในครั้งนี้ จะเป็นเวทีสะท้อนความต้องการของภาคเอกชนได้เป็นอย่างดี โดยของให้สำนักงานการบินพลเรือแห่งประเทศไทย (กพท.) รวบรวมความเห็นและข้อเสนอของผู้ประกอบการ นำมาเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการในทุกภาคส่วนและเตรียมความพร้อมรองรับการทำการบินอย่างเต็มรูปแบบเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ

 

 

 

 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า สำหรับปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการ 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย โดยในปี 2564 มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 20 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 9.51 แสนคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 19 ล้านคน ขณะที่ปี 2565 คาดการณ์ว่า จะมีผู้โดยสารใช้บริการ 62 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 26 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 35 ล้านคน