"เมืองปาย"คึกคักเที่ยวงานมหกรรมวิถีล้านนาสะพัด100ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกันจัดงานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานเปิดฟ้าเมืองปาย ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สานสายใยใกล้ชิด 7 ชาติพันธุ์ สัมพันธ์”

 

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประเพณีท้องถิ่นวิถีล้านนา ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

โดยมีนายศิริวัฒน์  บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วยท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มภาคจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1 (เชียงใหม่,ลำพูน,ลำปาง และมีฮ่องสอน) หัวหน้าส่วนราชการ และแขกผู้มีเกียรติ

 

นายศิริวัฒน์  บุปผาเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การท่องเที่ยวมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ  เมื่อการท่องเที่ยวสามารถให้บริการได้ การจ้างงานก็เกิดขึ้น สินค้าทางการเกษตร ของฝาก ของที่ระลึก กิจกรรมต่าง ๆ ก็จะตามมา สามารถสร้างงาน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับประชาชน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ทำให้เกิดการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) พฤติกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป

ดังนั้น ในช่วงที่ยังไม่สามารถเปิดประเทศ และรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ กิจกรรมประเพณีท้องถิ่นวิถีล้านนา เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชน ผู้ประกอบการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1 ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีนโยบายร่วมกับทางกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ที่จะใช้การท่องเที่ยวในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ดีการจัดงานและดำเนินการภายใต้มาตรการของสาธารณสุขควบคู่กันด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นใจระหว่างนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่

 

จากการประมาณการท่องเที่ยวจะพบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่าประมาณการ ประมาณ 20%  การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ที่จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนมีสิ่งดี ๆ มีอัตลักษณ์ มีวัฒนธรรมที่น่ามาเที่ยวชม

 

ขณะนี้ในภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะแม่ฮ่องสอน เราเปิดแอร์ทั่วจังหวัดเรียบร้อย อุณหภูมิ 7 องศา แล้วมีทะเลหมอกทุกอำเภอ ท่านสามารถชมทะเลหมอกที่มีความสวยงามที่แตกต่างกัน คาดหมายว่าจะสร้างรายได้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในหลัก 100 ล้านบาท เมื่อมีเงินหมุนเวียนประชาชน กลุ่มอาชีพต่าง ๆ ก็จะมีรายได้ ส่วนนักท่องเที่ยวหลังจากเคร่งเครียดมีความกังวลกับโควิด-19 มา ก็ได้ผ่อนคลาย     

 

ว่าที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง  และแม่ฮ่องสอน เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักของภาคเหนือ มีประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมล้านนา ที่มีอัตลักษณ์ ทรงคุณค่า มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย อาทิ การท่องเที่ยว  ทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยว เชิงธรรมชาติ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เป็นต้น

 

การจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564  เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัด ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในพื้นที่ เป็นการส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวทางเลือกของกลุ่มจังหวัด และเพื่อเป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1  

 

กิจกรรมสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา ครั้งที่ 3  ในงาน "เปิดฟ้าเมืองปาย ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สานสายใยใกล้ชิด 7 ชาติพันธุ์สัมพันธ์” ระหว่าง  10 – 12  ธันวาคม 2564 ณ ที่ว่าการอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นความร่วมมือของท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1 หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคีเครือข่าย ในการจัดกิจกรรมร่วมกัน แสดงถึงศิลปวัฒนธรรม ตามอัตลักษณ์ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1 ที่โดดเด่นของแต่ละจังหวัด ในงานมีการประกวดธิดาชนเผ่าอ.ปาย การประกวดโคมไฟ การประกวดรำนก รำโต การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน กาดหมั้วคนปาย ตลอดจนการแสดงศิลปวัฒนธรรม และการออกร้านกาชาด อ. ปาย

 

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวอีกว่า  มหกรรมวิถีล้านนาของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนบน 1  ซึ่งกำหนดจัดทั้งหมด 4 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3  ซึ่งเป็นคิวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยใช้ชื่อว่า” งานเปิดฟ้าเมืองปาย ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สานสายใยใกล้ชิด 7 ชาติพันธุ์สัมพันธ์” ซึ่งเป็นงานที่แสดงถึงวัฒนธรรมของชนเผ่าในแม่ฮ่องสอน ที่มีชนเผ่าหลัก ๆ อยู่ 7 ชนเผ่า และมีความสัมพันธ์เกื้อกูลซึ่งกันและกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเป็นแม่ฮ่องสอน

 

โดยโครงการจะได้ดำเนินการจัดอีก 1 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดลำพูนในลำดับต่อไป โดยดำเนินกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้เข้าร่วมกิจกรรมลงบันทึกรับรองตนเอง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่ร่วมกิจกรรม

 

งานครั้งนี้ที่ไปจัดที่อำเภอปาย ก็คืออำเภอปายก็เปรียบเสมือนประตูหน้าด่านเข้าตัวเมืองจังหวัด เป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวที่มาอำเภอปาย ยังไม่มีเวลาที่จะไปถึงแม่ฮ่องสอน ได้สัมผัสวิถีชีวิตชาติพันธุ์เห็นความสัมพันธ์ เห็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นหัวใจหลัก เป็นสินค้าของการท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอน จะได้มีโอกาสครั้งต่อไปก็จะได้ไหลไปเที่ยวถึงเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19

จุดเด่นของแม่ฮ่องสอนโดยทั่วไปที่คนรู้จักแม่ฮ่องสอนคือ ธรรมชาติ แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีป่าถึง 85%ของจังหวัด  ธรรมชาติเรามีหลายรูปแบบ ในขณะเดียวกันเมื่อมีธรรมชาติ สิ่งที่เป็นอีกอย่างคือลักษณะของวัฒนธรรมชนเผ่า ที่เรารู้กันมี 7 ชาติพันธุ์ โดยเฉพาะไทยใหญ่ซึ่งมีวัฒนธรรมโดดเด่นในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นลาหู่ ลีซอ หรือชาติพันธุ์อื่น ๆ ก็มีความโดดเด่น วัฒนธรรมประเพณีของชุมชนท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็มีความแตกต่างกัน

 

ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวมาอำเภอหนึ่งก็จะสัมผัสวิถีชนเผ่าอีกกลุ่มหนึ่ง ไปอำเภอเมืองก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง หรือไปอำเภออื่นก็จะมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือความสัมพันธ์ ความใกล้ชิดของวัฒนธรรมที่ร่วมกลมกลืนกันไปเป็นเอกลักษณ์ของแม่ฮ่องสอนที่ไม่เหมือนกับจังหวัดอื่น จึงขอเชิญชวนมาเที่ยว สัมผัสธรรมชาติ และวัฒนธรรมวิถีชีวิตของคนที่นี่ 

แม่ฮ่องสอนในซีซั่นนี้ มีสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ๆให้มาสัมผัส หลายคนอาจจะเคยมาแม่ฮ่องสอนเมื่อหลายปีก่อน มาปีนี้และปีหน้าก็อาจจะมีของใหม่ๆมานำเสนอ และจะทยอยพัฒนาและปรับปรุงให้เหมาะสมกับการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่หลังโควิด-19 

วันนี้แม่ฮ่องสอนก็คึกคัก แต่บรรยากาศที่พบก็คือนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แต่ทุกคนก็มีมาตรการป้องกันตนเองและที่สำคัญตอนนี้แม่ฮ่องสอนของเราโดยเฉพาะสถานประกอบการหลักๆทั้งหมดเราฉีดวัคซีนกันครบแล้วก็เหลือแต่รอบนอกเท่านั้น ฉะนั้นมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนมีความปลอดภัยแน่นอน และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาก็มีมาตรการป้องกันดูแลตัวเอง

ด้านว่าที่ ร.ต.ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมา สถานการณ์การท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้น ประกอบกับมีเรื่องของสินค้าทางด้านการท่องเที่ยวเสนอขาย

ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ มีทะเลหมอกหยุนไหล บ้านสันติชล ที่สวยงาม ทุ่งดอกบัวตอง ถนนคนเดินปาย เทศกาลและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวต่างๆ ตอนนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ในเดือนพฤศจิกายนมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 41-42%  คาดว่าในเดือนธันวาคม ก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพิ่มมากขึ้น และกระจายตัวไปในพื้นที่ต่าง ๆ คาดว่าอัตราการเข้าพักไม่น่าต่ำกว่า 50%  หรืออาจสูงถึง 60%  

นั่นแสดงว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวตอนนี้เริ่มที่จะฟื้นตัวและกลับมาดำเนินเรื่องของธุรกิจท่องเที่ยวได้มากขึ้น สังเกตว่าโรงแรมต่างๆที่เคยปิดตัว ตอนนี้ก็เริ่มเปิดกิจการเข้ามามากขึ้น มีกิจกรรมเรื่องของการท่องเที่ยว ที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากขึ้น

 

คาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 600,000-700,000 คน น่าจะสร้างรายได้ให้กับจังหวัดหลาย 1,000 ล้านบาท เที่ยวด้วยความปลอดภัย ใส่ใจตัวเอง และคนรอบข้างด้วยการสวมหน้ากากตลอดเวลา และปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด