นายบัณฑิต สะเพียรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ในฐานะบริษัทร่วมทุนของ IEAD เปิดเผยวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า IEAD บริษัทร่วมทุนของไทย ผู้ดำเนิน โครงการ "มอนสูน" (Monsoon) ซึ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม แห่งแรกที่มีการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดนระหว่าง สปป. ลาว และเวียดนาม และมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ได้แต่งตั้ง ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ เอดีบี ให้เป็นผู้แทนในการจัดหาเงินกู้จำนวนรวมประมาณ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 22,000 ล้านบาท ให้กับโครงการ
ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาต่างๆ รวมทั้งธนาคารพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศหลายแห่ง ได้แสดงความสนใจร่วมปล่อยกู้ด้วย ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดให้มีโครงสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อจัดหาเงินทุนที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการนี้มากที่สุด
โครงการพลังงานสะอาด ลดก๊าซเรือนกระจกกว่า 35 ล้านตัน
ทั้งนี้ “มอนสูน” เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 600 เมกะวัตต์ ถือเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพลังงานสะอาดที่ผลิตได้ตลอดอายุของโครงการ คาดว่ามีปริมาณเทียบเท่ากับการลดก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 35 ล้านตัน ซึ่งจะช่วยผลักดันเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) สอดคล้องกับแนวทางการประชุม COP26 ที่ผ่านมา
โครงการนี้ยังสะท้อนถึงความสมบูรณ์ของแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติของ สปป.ลาว ที่มีความสำคัญต่อภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะพลังงานลม ที่เอื้อต่อการผลิตพลังงานสะอาดและมีความเสถียร สามารถหล่อเลี้ยงการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับเวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังส่งเสริมให้ สปป. ลาว เป็นแบตเตอรี่ของเอเชียตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
โครงการมอนสูน ดำเนินการโดย บริษัท อิมแพค เอนเนอร์ยี่ เอเซีย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Impact Energy Asia Development Limited) หรือ IEAD ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท อิมแพค วินด์ อินเวสเม้นท์ จำกัด (Impact Wind Investment Limited) และบมจ. บีซีพีจี (BCPG) ตั้งอยู่ที่แขวงเซกอง และแขวงอัตตะปือ ใน สปป.ลาว เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าผ่านสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์ ไปยังเมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
คาดเริ่มก่อสร้างปี 65 เริ่มผลิตไฟฟ้าปี 68
ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาและจัดหาเงินทุน คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า (2565) และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2568 ทั้งนี้ IEAD และการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Vietnam Electricity -EVN) ได้ร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจาก "โครงการมอนสูน" เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
"ในช่วงที่ผ่านมา เอดีบี ได้ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ ของ BCPG มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่นำร่องใช้นวัตกรรมกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Energy Storage System) แห่งแรกในประเทศไทย การแต่งตั้ง เอดีบี ให้เป็นผู้แทนในการจัดหาเงินทุน และร่วมสนับสนุนทางการเงินของโครงการมอนสูนในครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถจัดหาเงินทุนได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อโครงการมากที่สุด” ผู้บริหารของ BCPG กล่าว
ธนาคารไทย-เทศพร้อมสนับสนุน
นอกจากเอดีบีแล้ว ในเบื้องต้น ธนาคารเพื่อการพัฒนาแบบพหุภาคี (Multilateral Development Banks) และธนาคารพาณิชย์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้ตอบรับและแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมกับเอดีบี เพื่อปล่อยกู้ให้กับโครงการ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อเสนอจากสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะสรุปและคัดเลือกสถาบันการเงินได้ภายในไตรมาส 1/2565
สำหรับอิมแพค วินด์ อินเวสเม้นท์ หรือ IEAD เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท อิมแพค วินด์ อินเวสเม้นท์ จำกัด และ BCPG โดยถือหุ้น 55% และ 45% ตามลำดับ ทั้งนี้ บริษัท อิมแพค วินด์ อินเวสเม้นท์ จำกัด มีผู้ถือหุ้น 2 บริษัท คือ บริษัท ไดมอนด์ เยนเนอเรติ้ง เอเซีย จำกัด (Diamond Generating Asia Limited) เป็นบริษัทในเครือของ มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น (Mitsubishi Corporation) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถือหุ้น 43% และบริษัทในเครือของ IES ซึ่งเป็นผู้พัฒนาพลังงานทดแทนระดับภูมิภาคของเอกชนไทย ถือหุ้น 57%
โครงการมอนสูน เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เริ่มต้นพัฒนาโดยกลุ่มอิมแพค เอนเนอร์ยี่ กรุ๊ป ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท อิมแพค อิเลคตรอนส์ สยาม จำกัด (Impact Electrons Siam Company Limited - IES) ซึ่งได้ทุ่มเทพัฒนาโครงการมอนสูนให้เกิดขึ้นจริงตามวิสัยทัศน์ของผู้ถือหุ้น และได้กลายเป็นโครงการที่มีมูลค่าสูงระดับโลก BCPG มั่นใจว่าโครงการมอนสูน จะสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชุมชนนพื้นที่ และสร้างความยั่งยืนให้กับโลก