บอร์ด ปตท. ไฟเขียวงบลงทุน 5 ปี 1.02 แสนล.รุกธุรกิจอีวี-จ้างงาน 23,000 อัตรา

16 ธ.ค. 2564 | 13:17 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2564 | 20:56 น.

บอร์ด ปตท. อนุมัติงบลงทุน 5 ปี 1.02 แสนล้านบาท รุกธุรกิจอีวี ขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจที่ไม่ใช่พลังงาน และจ้างงาน 23,000 อัตรา

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. มีมติอนุมัติแผนวิสาหกิจและงบลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2565-2569) 102,165 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินลงทุนในหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 45% ,ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 20% ,ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย 2% ,ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ 8% และการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% อีก 25%
ทั้งนี้ ปตท. พร้อมเดินหน้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า ด้วยการลงทุนในธุรกิจหลัก (Core Businesses) เพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 และโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8 ซึ่งนำก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มาแยกเป็นผลิตภัณฑ์อีเทนและแอลพีจี 

รวมถึงถังเก็บผลิตภัณฑ์อีเทนและสถานีรับจ่ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อีเทน รวมทั้งโครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 ทั้งยังมีการลงทุนผ่านบริษัท ที่ ปตท. ถือหุ้น 100% อาทิ การขยายขีดความสามารถของสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลวแห่งที่ 2 (หนองแฟบ) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3
นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้าอีกจำนวน 238,032 ล้านบาท ตามกรอบวิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต มุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาด ประกอบด้วย การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน โดยวางเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 12,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 

ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

และลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ครบวงจร ตลอดจนการขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานเปลี่ยนผ่าน (Transition Fuel) โดยมุ่งเน้นในการขยายโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของภาครัฐ)และการขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวอย่างครบวงจร (LNG Value Chain) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

และขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นนอกเหนือจากพลังงาน อาทิ ธุรกิจ Life science (ยา Nutrition อุปกรณ์และการวินิจฉัยทางการแพทย์) เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน รวมถึงธุรกิจโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐาน อีกด้วย
ในส่วนของการดำเนินงานเพื่อบรรเทาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากวิกฤตโควิด-19 กลุ่ม ปตท. ยังคงเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง อาทิ โครงการ Restart Thailand ปีที่ 2 เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ เสริมทักษะและสร้างความมั่นคงทางอาชีพให้นักศึกษาจบใหม่และผู้ว่างงานรวมกว่า 23,000 อัตรา 
อีกทั้งยังร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านโครงการ Refresh and Energize for The New Normal โดย ปตท. จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนเพื่อให้พนักงานได้ใช้วันลาพักร้อนท่องเที่ยวในประเทศ ช่วยเสริมสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ตลอดจน โครงการลมหายใจเดียวกัน เดินหน้าหน่วยคัดกรองโควิด-19 โรงพยาบาลสนามครบวงจร และสายด่วน 1745 “End-To-End Mobile@1745” เพื่อเสริมความเข้มแข็งของสาธารณสุขไทย สนับสนุนนโยบายเปิดประเทศ ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ