หลังจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนท์ (ITD) บริษัทรับเหมายักษ์ใหญ่เบอร์ต้นของเมืองไทย เจอมรสุมเมื่อต้นปี 2564 รัฐบาลเมียนมาบอกเลิกสัญญาสัมปทานโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า8,000 ล้านบาท และหากรัฐบาลไทยไม่สามารถเจรจาให้ความช่วยเหลือได้อาจทำให้ ต้องสูญเสียเครื่องจักรอุปกรณ์สำคัญ
จากการถูกยึดทรัพย์สิน ขณะอีกฝั่งจากเมียนมา อ้างว่า เอกชนไทย มีความล่าช้าส่อไปในทางขาดสภาพคล่อง แต่ทางทีมผู้บริหารของ ITD ได้ออกมาชี้แจงว่า เมียนมาต่างหากที่ไม่ ส่งมอบพื้นที่ทำให้การลงทุนต้องยุติลง เพื่อลดความเสี่ยง
หลุมดำจากทวายสู่เสือดำ
เหตุการณ์ดังกล่าวนอกจากสร้างความสั่นคลอนอย่างมากให้กับบริษัทแล้วล่าสุดวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าสัว เปรมชัย กรรณสูต ต้องโทษจำคุก เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน จากคำพิพากษาศาลฎีกา คดีเสือดำ เมื่อ 3 ปีก่อน ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มบริษัทในห้วงเวลานั้นร่วงรับกระแสข่าวลบดังกล่าว 0.93% แต่เมื่อมองในภาพรวมแล้ว
สะท้อนว่า การปรับลดลงของราคาหุ้นไม่รุนแรงนักเนื่องจาก ITD มีขุมทรัพย์ที่แข็งแกร่งจากทรัพยากรแรงงาน ไม่ตํ่ากว่า 20,000 คน มีอุปกรณ์เครื่องจักรที่พร้อมทันสมัยในการลงทุนอีกทั้งมีงานในมือของภาครัฐและเอกชนค่อนข้างมาก ขณะทีมบริหารแต่ละส่วนล้วนแล้วแต่มืออาชีพ
สานต่อธุรกิจแสนล้าน
ที่เหนือชั้นกว่านั้นหากย้อนไปก่อนหน้าที่คำพิพากษาจะออกมา ดูเหมือนว่า เจ้าสัวเปรมชัยจะคาดเดาเหตุการณ์ได้ล่วงหน้า จึงมีหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่1ธันวาคม 2564 แต่งตั้ง นายธรณิศ กรรณสูต บุตรชายคนเล็ก จากตำแหน่งกรรมการรองประธานบริหารอาวุโส และผู้ช่วยประธานบริหาร ให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานบริหาร ITD ในกรณีที่ประธานบริหารไม่สามารถปฏิบัติงานได้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
แหล่งข่าวจากITDเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดจากการที่เจ้าสัวเปรมชัยถูกดำเนินคดีในทางตรงกันข้ามได้มีการสั่งการและประกาศแต่งตั้งบุตรชายคนเล็กให้สานต่อธุรกิจของผู้เป็นบิดาแทน ขณะเดียวกันบริษัทเป็นองค์กรขนาดใหญ่มีทีมงานเฉพาะด้านที่เชี่ยวชาญมีประสิทธิภาพ แต่ละกลุ่มงาน
ทำให้งานทุกกลุ่มธุรกิจสามารถเดินต่อได้อีกทั้งบริษัทยังประมูลงานของภาครัฐและเอกชนในมือจำนวนมาก โดยเฉพาะงานในมือทั้งรูปแบบร่วมพันธมิตรและประมูลงานแบบรายเดียว ยังไม่รวมงานที่อยู่ระหว่างดำเนินโครงการและเตรียมแข่งขันประมูลโครงการขนาดใหญ่อย่างรถไฟฟ้า
เปิดโปรเจ็ตต์ ITD แสนล้าน
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบ โครงการขนาดใหญ่ที่ ITD ได้งานแล้วจากไตรมาส 3 ปี 2564 วงเงิน 114,421 ล้านบาท ในจำนวนนี้พบว่า เป็นโครงการใหม่ที่ลงนามแล้ว วงเงิน 6,757 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง (สัญญา 3) วงเงิน 4,814 ล้านบาท 2.โครงการอาคารสถาบัน IOT วงเงิน 1,085 ล้านบาท 3.งานออกแบบ One Bangkok วงเงิน 837 ล้านบาท 4.โครงการอื่นๆ วงเงิน 21 ล้านบาทขณะเดียวกันโครงการที่ชนะการประมูลที่ใกล้ลงนามสัญญาแล้ว วงเงิน 96,512 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) วงเงิน 92,512 ล้านบาท 2.โครงการ One Bangkok วงเงิน 2,073 ล้านบาท
3.อาคารเฉลิมพระเกียรติ วงเงิน 430 ล้านบาท
4.อาคารทำเนียบองคมนตรี วงเงิน 413 ล้านบาท
5.เสริมความมั่นคงอาคารสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ วงเงิน 403 ล้านบาท 6.เนอวานา ดีฟายน์ เอกมัย-ราชดำริ วงเงิน 306 ล้านบาท
ลุ้นเช็นทางคู่สายเหนือ/ไฮสปีดไทย-จีน
ทั้งนี้โครงการที่เสนอราคาต่ำสุด ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาจำนวน 8 โครงการ วงเงินรวม 36,707 ล้านบาท อาทิ 1.โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ (สัญญา 1) วงเงิน 22,347 ล้านบาท 2.โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนกรุงเทพฯ-หนองคาย เฟสแรก (สัญญา 4-5) วงเงิน 9,264 ล้านบาท 3.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เอกชัย-บ้านแพ้ว (ตอนที่ 7) วงเงิน 1,746 ล้านบาท 4.โครงการสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเกียกกาย (เฟส 2) วงเงิน 1,059 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่บริษัทฯ มีแผนจะดำเนินการเข้าร่วมการประมูลงานก่อสร้างในช่วงนี้ เช่น1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม งานโยธาส่วนตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์) งานเดินรถทั้งระบบ (มีนบุรี-บางขุขนนท์) มูลค่า 140,000 ล้านบาท 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 78,000 ล้านบาท
เจาะงบการเงิน
ด้านงบการเงิน และผลประกอบการ งวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2564 ของ ITD พบว่ามีรายได้รวมกว่า 42,600ล้านบาท ขาดทุน-853 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 121 ล้านบาท ขณะนางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการรองประธานบริหารอาวุโส แจ้งเหตุผลต่อ ตลท. ว่า เมื่อพิจารณาในส่วน
รายได้การให้บริการรับเหมาก่อสร้าง,รายได้จากการขายและบริการ มีอัตราเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เผชิญกับปัญหาการเพิ่มขึ้นของต้นทุน โดยเฉพาะส่วนการบริการขุด-ขนถ่านหิน ทำให้ 9 เดือนที่ผ่านมา มีต้นทุนสูงถึง 4,713 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ รวม อยู่ที่ 112,000 ล้านบาทและหนี้สินรวม 96,600 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี พบปี 2563 ITD ขาดทุน -1,104 ล้านบาท, ปี 2562 ขาดทุน -37ล้านบาท และปี 2561 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 305 ล้านบาท ลดลงจากปี 2560
วงการรับเหมายันทวายทำทรุด
แหล่งข่าวในแวดวงผู้รับเหมา ระบุว่า ต้องยอมรับว่า จากโครงการทวาย ทำให้ ITD ได้รับผลกระทบต่อสภาพคล่องอย่างมาก เพราะ ใช้งบลงทุนไปในโครงการดังกล่าวค่อนข้างมากและถูกยกเลิกสัมปทาน โดยทางเมียนมาอ้างว่าขาดสภาพคล่อง อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ITD มีแรงงานค่อนข้างมากและเครื่องมือที่พร้อม อีกทั้งมีทีมวิศวกรที่มืออาชีพมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีรวมถึงภาครัฐทำให้ยืนหยัดอยู่ได้ ขณะเดียวกัน ยังได้ทายาทซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่มีความรู้ความสามารถมารับไม้ต่อ ทำให้ ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ
ส่องโปรไพล์ทายาท ITD
สำหรับนายธรณิศ กรรณสูต อายุ 32 ปี เป็นลูกชายคนเล็กของนายเปรมชัย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (University of California Berkeley) มีพี่น้อง 2 คน คือ นายปิติ กรรณสูต ดำรงตำแหน่ง รองประธานบริหารอาวุโส และ น.ส.ปราชญา กรรณสูต ดำรงตำแหน่ง รองประธานบริหารอาวุโส และผู้ช่วยกรรมการรองประธานบริหารอาวุโส
ทั้งนี้ วันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ITDได้ แถลงการณ์ กรณีศาลฎีกาได้พิพากษาคดีจำคุกนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นสิ้นสุดของกระบวนการยุติธรรมแล้ว ซึ่ง ITD ชี้แจงว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบต่อการดำเนินงาน และการบริหารธุรกิจของบริษัทฯ แต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ได้ตั้งคณะกรรมการบริหาร (Exccutive Committee) ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจำนวน 16 คน เพื่อดำเนินงานและบริหารงานมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 รวมระยะเวลา 9 ปี และบริษัทฯ ได้แต่งตั้ง นายธรณิศ กรรณสูต เป็นรักษาการประธานบริหาร ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เลขที่ /2/2564 ณ วันที่ 1/12/2564