กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัวเลขส่งออก11 เดือนไปแล้ว พบว่า ตั้งแต่ มกราคม-พฤศจิกายน ส่งออกไทยขยายตัว16.4% เฉพาะเดือนพ.ย.บวก24.7% ทำให้กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าทั้งปี64 ส่งออกไทยน่าจะขยายตัว15-16% ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกเดือนพ.ย.2564 ดีขึ้นถึง 24.7% การผลักดันการส่งออกในทุกรูปแบบร่วมกับภาคเอกชนในรูป กรอ.พาณิชย์ (คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์) ประกอบกับการบริโภคฟื้นตัวต่อเนื่องในหลายประเทศ การขยายตัวของภาคการผลิตทั่วโลก ดัชนี PMI (ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก) อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11
ส่งผลให้ขายดีขึ้น ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าอยู่ ช่วยให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาได้ในตลาดโลก และการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งสินค้าเกษตร น้ำมันดิบ โลหะ เป็นปัจจัยบวกต่อการส่งออก ทำให้ราคาในตลาดโลกสูงขึ้น
ทำให้กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า การส่งออกทั้งปี 2564 คงไม่ต่ำกว่า 15-16% ส่วนเป้าหมายปี 2565 จะประชุม กรอ.พาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกันก่อน ซึ่งขณะนี้ ได้ประเมินตัวเลขไว้แล้ว แต่ต้องรอประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนก่อน อาจจะเป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ หรือไม่ก็สัปดาห์แรกต้นปี 2565
อย่างไรก็ตาม การที่ส่งออกไทยมีการขยานยตัวต่อเนื่องมาจากการส่งออกใน3 หมวดสินค้า ซึ่งประกอบด้วย หมวดสินค้าเกษตร หมวดสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม และหมวดอุตสาหกรรม
โดยจะเห็นได้ว่า หมวดสินค้าเกษตร มีการขยายตัวเป็นบวกที่14.2% ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตัวต่อเนื่อง13 เดือนซึ่ง มูลค่าเดือนพฤศจิกายน 68,462 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ส่งออกได้ดี เช่น ทุเรียนสด +138.9% ขยายตัวดีมากในตลาดจีนและเกาหลีใต้ มะม่วงสด +48.6% ขยายตัวดีมากในตลาดมาเลเซีย เกาหลีใต้ เมียนมา ญี่ปุ่นและลาว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง บวก 13 เดือนต่อเนื่อง เดือนพฤศจิกายน +48.6% ขยายตัวดีมาก ในตลาดจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้และมาเลเซีย ลำไยสด เดือนพฤศจิกายน +24.7% เป็นบวก6 เดือนต่อเนื่อง ขยายตัวดีในตลาดจีน ฮ่องกง เวียดนาม มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ยางพารา เดือน +23.5% เป็นบวก 14 เดือนต่อเนื่อง
หมวดสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร มีการขยายตัวเป็นบวก21.2% ต่อเนื่องเป็นเดือานที่9 ซึ่ง สินค้าสำคัญเช่นน้ำตาลทราย เดือนพฤศจิกายน +74%
ผลไม้แช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป +34.5% บวกเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และอาหารสัตว์เลี้ยง บวกเป็นเดือนที่ 27 โดยเดือนพฤศจิกายน +25.9%
และหมวดสุดท้ายคือ หมวดสินค้าอุตสาหกรรม โดยมีการขยายตัวบวก23.1% เป็นขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือนติดต่อกันซึ่งสินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ปิโตรเลียมเหลว เป็นต้น +72.9% เป็นบวก 10 เดือนต่อเนื่องเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นบวก 12 เดือนต่อเนื่อง เดือนพฤศจิกายน +51.9%อัญมณีและเครื่องประดับ +24.9% เป็นบวกเดือนที่ 9 ติดต่อกัน แผงวงจรไฟฟ้า +26.7% บวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12คอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ บวก 12 เดือนต่อเนื่อง +19.9%รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ + 13 เดือนต่อเนื่อง เป็น +12%
ทั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะหมวดสินค้าเท่านั้นที่ขยายตัวได้ดี ตลาดส่งออกสำคัญๆของไทยมีการขยายตัวต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเช่น โดยตลาดที่ขยายตัวได้ดี 10 อันดับแรก ประกอบด้วยเอเชียใต้ +66% อาเซียน +55.1% ตะวันออกกลาง +40.7% เกาหลีใต้ +30.6% สภาพยุโรป +30.2% รัสเซียและกลุ่มประเทศ CSI +27.3% จีน +24.3% ไต้หวัน +24.2% สหรัฐฯ +20.5%และทวีปแอฟริกา +18.4%