นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการพักชำระหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าตามศักยภาพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดความกังวลในด้านภาระหนี้สิน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และภัยธรรมชาติ ที่สร้างผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และเพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องในการลงทุนและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ธ.ก.ส. ได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
โครงการชำระดีมีคืน ปีบัญชี 2564 สำหรับเกษตรกรลูกค้า ที่มีหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ยกเว้นหนี้เงินกู้โครงการที่ได้รับชดเชยดอกเบี้ยตามนโยบายรัฐบาล โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากลูกค้าโดยตรง ร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่เกินรายละ 1,000 บาท วงเงินงบประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยจะมีเกษตรกรลูกค้าได้รับประโยชน์กว่า 4.1 ล้านราย
และโครงการนาทีทองลดดอกเบี้ยสู้โควิด ปีบัญชี 2564 สำหรับลูกค้าที่มีภาระหนี้ค้างชำระ หรือลูกค้าที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 โดย ธ.ก.ส. จะลดดอกเบี้ย ดังนี้ 1) กรณีชำระหนี้เสร็จสิ้นเป็นรายสัญญา จะลดดอกเบี้ยที่ค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ไม่เกินร้อยละ 50 ณ วันชำระหนี้ 2) กรณีชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้น แต่ไม่สามารถชำระต้นเงินได้ จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ร้อยละ 30 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง 3) กรณีชำระดอกเบี้ยได้บางส่วนจะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง 4) กรณีกลุ่มเกษตรกรสหกรณ์ นิติบุคคล และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ชำระดอกเบี้ยได้เสร็จสิ้นหรือบางส่วน จะลดดอกเบี้ยค้างชำระรวมถึงเบี้ยปรับ ร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
นายธนารัตน์ กล่าวอีกว่า เมื่อชำระหนี้แล้ว ลูกค้าสามารถรับการสนับสนุนสินเชื่อใหม่เพื่อนำไปลงทุนในการประกอบอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูอาชีพเพื่อสร้างรายได้ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของ ธ.ก.ส. ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถยื่นความประสงค์ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 ณ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-555-0555.