ปตท.สผ. อีดี ผนึกเชฟรอนผุดข้อตกลง 3 ฉบับแก้ปัญหาก๊าซฯขาดช่วงเปลี่ยนผ่าน

24 ธ.ค. 2564 | 10:36 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2564 | 17:36 น.

ปตท.สผ. อีดี ผนึกเชฟรอนผุดข้อตก 3 ฉบับแก้ปัญหาก๊าซธรรมชาติขาดช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณล่าช้ากว่า 2 ปี

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ. อีดี ในฐานะผู้ดำเนินการรายใหม่ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต ของแปลง G1/61 ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในช่วงเปลี่ยนผ่านของแหล่งก๊าซธรรมชาติกลุ่มเอราวัณ 3 ข้อประกอบด้วย
1.ข้อตกลงการเข้าพื้นที่ (Site Access Agreement, SAA) ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อให้ผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสามารถเข้าพื้นที่ไปดำเนินกิจกรรมเตรียมการ เช่น การติดตั้งแท่นหลุมผลิต การเจาะหลุมผลิต และการเชื่อมต่อแท่นหลุมผลิตใหม่เข้ากับแท่นหลุมผลิตเดิม
2.ข้อตกลงการเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินกิจกรรมการรื้อถอนสิ่งติดตั้ง (Asset Retirement Access Agreement, ARAA) ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อให้ผู้รับสัมปทานสามารถเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินกิจกรรมการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่รัฐไม่รับมอบภายหลังสิ้นสุดอายุสัมปทาน ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 80/1 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และข้อ 22 แห่งกฎกระทรวง กําหนดแผนงาน ประมาณการค่าใช้จ่าย

และหลักประกันในการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่ใช้ในกิจการปิโตรเลียม พ.ศ. 2559 ซึ่งผู้รับสัมปทานมีหน้าที่ในการจัดทำข้อตกลงการส่งมอบสิ่งติดตั้ง (Asset Transfer Agreement, ATA) รวมถึงข้อกำหนดในสัมปทานปิโตรเลียม         
3.ข้อตกลงการถ่ายโอนการดำเนินงาน (Operation Transfer Agreement, OTA) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่กำหนดกรอบความร่วมมือในการถ่ายโอนการดำเนินงานระหว่างผู้รับสัมปทานและผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต เช่น การส่งมอบข้อมูลที่จำเป็นต่อการประกอบกิจการปิโตรเลียมให้แก่ผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต การถ่ายโอนการดำเนินงานระหว่างกัน เป็นต้น ซึ่งเป็นการดำเนินการตามข้อ 6 ของประกาศกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เรื่องข้อตกลงการส่งมอบสิ่งติดตั้ง พ.ศ. 2561
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากปัญหาความล่าช้าในการเข้าพื้นที่แหล่งเอราวัณนั้น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ได้ใช้ความอุตสาหะพยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการเพื่อประสานให้ทั้ง 2 บริษัทมาหารือเพื่อให้ได้ข้อตกลงต่าง ๆ ร่วมกัน ที่จะส่งผลให้การดำเนินงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป็นไปอย่างราบรื่น โดยความร่วมมือดังกล่าวส่งผลให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น สำหรับการเข้าพื้นที่ของ ปตท.สผ.อีดี เพื่อเตรียมความพร้อมในการผลิตก๊าซธรรมชาติ
ในแหล่งดังกล่าวเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นสำคัญ”

สำหรับ บริษัท ปตท.สผ. อีดี เป็นผู้ชนะการประมูลและจะเป็นผู้ดำเนินงานรายใหม่ในแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณหลังจากสัมปทานของบริษัท เชฟรอนฯ หมดอายุลงในเดือนเมษายน 2565 ซึ่งตามเงื่อนไขในการประมูลนั้น บริษัท ปตท.สผ.อีดี จะต้องผลิตก๊าซธรรมชาติให้ได้ในอัตรา800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งความล่าช้าในการทำข้อตกลงฯ ของทั้ง 2 บริษัทอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในช่วงเปลี่ยนผ่าน