ขสมก.จ่อประมูลอู่รถเมล์บางเขน - มีนบุรี 3 พันล้าน อัพเกรดพื้นที่เชิงพาณิชย์

12 ม.ค. 2565 | 22:00 น.

ขสมก.เปิดแผนพัฒนาอู่รถเมล์บางเขน - มีนบุรี มูลค่ากว่า 3 พันล้าน หนุนพื้นที่เชิงพาณิชย์ เร่งศึกษาเสร็จภายใน 6 เดือน เตรียมเปิดประมูล ดึงเอกชนร่วมทุนภายในปีนี้

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าแผนนำที่ดิน ขสมก.ไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ นั้นเป็นการพัฒนาที่ดินอู่จอดรถเมล์ในรูปแบบโครงการผสมผสาน (มิกซ์ยูส) ซึ่ง ขสมก.จะเปิดประกวดราคาหาเอกชนร่วมลงทุน ถือเป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟูองค์กรของ ขสมก. เพื่อหารายได้นอกเหนือจากการเดินรถ เบื้องต้นขสมก.อยู่ระหว่างปรับแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เน้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวยสาธารณะและลานกิจกรรม เพื่อทำให้ประชาชนและผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสาร ขสมก.ได้ใช้ประโยชน์จากอู่จอดรถให้มากขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าจะทบทวนผลการศึกษาโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หลังจากนั้น ขสมก.เริ่มเปิดประกวดราคาจัดหาเอกชนร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ภายในปีนี้

 

 

 

 

 

“แผนดังกล่าวมีการศึกษามาเป็นเวลานานแล้ว แต่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ขณะนี้ได้นำผลการศึกษาแผนพัฒนาอู่จอดรถเมล์ทั้งหมดมาศึกษาใหม่ จากเดิมแผนจะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ส่วนใหญ่เป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรมและพื้นที่เพื่อการค้า แต่ขณะนี้เล็งเห็นว่าพื้นที่อู่รถเมล์เป็นพื้นที่กว้าง หากปรับแผนพัฒนาพื้นที่สีเขียว และลานกิจกรรมให้มากขึ้น ลดโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ลง จะเป็นประโยชน์มากกว่า  ขณะเดียวกันแผนเดิมอาจจะเห็นว่าการเพิ่มรายได้จากพื้นที่การค้าเป็นส่วนสำคัญ แต่ส่วนตัวผมมองว่าหากเพิ่มพื้นที่สีเขียว และลานกิจกรรม จะทำให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์กับพื้นที่นี้ เกิดการเดินทางด้วยรถโดยสาร ขสมก.มากขึ้น เพื่อ่เข้ามาร่วมทำกิจกรรม และท้ายที่สุดส่วนของร้านค้า คอมมูนิตี้มอลล์ในพื้นที่ก็จะมีรายได้ยั่งยืน”

รายงานข่าวจาก ขสมก. กล่าวว่า แผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ของ ขสมก. ก่อนหน้านี้มีการศึกษานำพื้นที่อู่จอดรถหลายแห่งในกรุงเทพฯ มาเตรียมเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุน อาทิ อู่บางเขน ที่มีพื้นที่ 11 ไร่ อยู่ติดกับรถไฟฟ้า และอู่มีนบุรี ที่มีพื้นที่ 10 ไร่ เป็นย่านชุมชนที่มีการเดินทางผ่านหนาแน่น จึงถือเป็นอู่จอดรถที่มีศักยภาพ คาดว่าจะจูงใจเอกชนร่วมลงทุน 

 

 

 

สำหรับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ขสมก.มีเป้าหมายพัฒนาอู่จอดรถทั้งสองแห่งในลักษณะโครงการมิกซ์ยูส โดยผสมผสานระหว่างโรงแรมที่พักระดับกลาง แหล่งจัดประชุมสัมมนา ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงร้านอาหารและคอมมูนิตี้มอลล์ประเภทอื่นๆ เพราะเล็งเห็นว่าโครงการพัฒนาเหล่านี้จะจูงใจเอกชนร่วมลงทุนและคาดว่าจะสร้างรายได้ผลตอบแทนสูงต่อเนื่อง


 

ทั้งนี้ ขสมก.ยังประเมินมูลค่าการลงทุนของโครงการเชิงพาณิชย์ทั้ง 2 แห่ง โดยอู่บางเขน มูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้น 2,494 ล้านบาท เบื้องต้น ขสมก.จะเป็นผู้ลงทุนที่ดิน ส่วนเอกชนจะลงทุนก่อสร้างอาคารทั้งหมด โดยให้สัมปทานเช่าพัฒนาที่ดินรวม 30 ปีมี แบ่งออกเป็น ค่าธรรมเนียมการใช้สิทธิ์ 278 ล้านบาท ค่าตอบแทนระหว่างการก่อสร้าง 13 ล้านบาท ผลตอบแทนจากค่าเช่า 514 ล้านบาท ขณะที่อู่มีนบุรี มูลค่าลงทุนราว 1,386.88 ล้านบาท ปัจจุบันผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ขสมก.มีแนวคิดจะพัฒนาเป็นตลาดและร้านค้า รวมทั้งการพัฒนาเป็นตลาดและร้านอาหารริมน้ำบริเวณคลองสามวา โดยจะเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนภายใต้สัมปทานเช่าระยะ 30 ปี หลังสิ้นสุดสัมปทานเอกชนจะต้องโอนที่ดินและทรัพย์สินทั้งหมดคืนให้ ขสมก.โดยจะมีการก่อสร้างอาคารเพียงอาคารตลาดและร้านค้าเท่านั้น