ข่าวคนละครึ่งเฟส 4 ล่าสุดวันนี้ คลัง เผยยอดการใช้จ่ายรวม 7 วัน 1.4 หมื่นล้าน

08 ก.พ. 2565 | 12:58 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2565 | 21:02 น.

ข่าวคนละครึ่งเฟส 4 ล่าสุดวันนี้ www.คนละครึ่ง.com กระทรวงการคลัง เผยยอดใช้ถึงวันที่ 7 ก.พ. มีผู้ใช้สิทธิ 20.40 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวม 14,027.6 ล้านบาท

วันนี้ (8 ก.พ.)  นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าโครงการคนละเฟส  4  (โครงการฯ ระยะที่ 4) โดยจากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ณ เวลา 23.00 น. พบว่า มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 20.40 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 14,027.6 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 7,102.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 6,924.8 ล้านบาท

และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 5,201.1 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 2,743.7 ล้านบาท ร้าน OTOP 675.8 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 5,144.5 ล้านบาท ร้านบริการ 243.5 ล้านบาท และกิจการขนส่งสาธารณะ 19 ล้านบาท ทั้งนี้ มีประชาชนที่กดยืนยันสิทธิเข้าร่วม คนละครึ่งเฟส 4 แล้ว จำนวน 24.51 ล้านราย จากจำนวนผู้ใช้จ่ายโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 จำนวน 26.35 ล้านราย และมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 แล้วจำนวน 1.33 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 166 ราย

 

 

ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” อย่างต่อเนื่อง และประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ขอให้เตรียมรอลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน“เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง​.com ได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการฯ ระยะที่ 4 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4

 

 

กระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำให้ประชาชนและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการฯ ระยะที่ 4 และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนตามโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ไม่หวังดีที่เสนอจะช่วยหาประโยชน์จากโครงการ โดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าหรือบริการจริงอย่างเด็ดขาดเพราะอาจตกเป็นเหยื่อในการสนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด เนื่องจากภาครัฐมีระบบการติดตามตรวจสอบพฤติกรรมหรือธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบการกระทำความผิดจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้อีก และมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย.

 

ที่มา: กระทรวงการคลัง