ด่วน ครม.ไฟเขียวลดภาษีน้ำมัน ดีเซล 3 บาทต่อลิตร นาน 3 เดือน

15 ก.พ. 2565 | 08:53 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.พ. 2565 | 00:24 น.

ที่ประชุมครม. เห็นชอบมาตรการลดค่าครองชีพ ลดภาษีน้ำมันดีเซลไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน หวังช่วยบรรเทาผลกระทบภาคขนส่งช่วงเจอวิกฤตน้ำมันแพง

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการลดค่าครองชีพ และการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยออกเป็นร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อลดภาษีน้ำมันดีเซลไม่เกิน 3 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน โดยจะเริ่มต้นเร็วที่สุด

 

สำหรับจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตรา 5.99 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณเดือนละ 12,000 ล้านบาท หรือปีละ 1.44 แสนล้านบาท จากการใช้น้ำมัน 2,000 ล้านลิตรต่อเดือน

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลดภาษีน้ำมัน ครั้งนี้ ประเมินว่า แม้จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประมาณ 17,100 ล้านบาท จากปริมาณน้ำมันที่มีการชำระภาษี 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ที่จัดเก็บลดลงประมาณ 5,700 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน

 

แต่จะเป็นการช่วยเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร การท่องเที่ยวและบริการ และการขนส่ง

 

 

สาเหตุที่ต้องลดภาษีน้ำมันดีเซล เพราะหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น โดยเรื่องนี้ ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือลับ เพื่อจัดทำรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุมครม.พิจารณา

 

ประกอบกับข้อมูลหน่วยงานต่าง ๆ ได้นัดหารือกันในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อสรุปตัวเลขการปรับลดภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐมากนัก
 

สำหรับขั้นตอนต่อไปจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างกฏกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆที่คล้ายกัน ตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 20 พ.ค.2565

 

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศที่ลดลงโดยตรง และสะท้อนไปยังราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ปรับลดประมาณ 3 บาทต่อลิตร มีรายละเอียด ดังนี้

  • น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท
  • น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน ไม่เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท
  • น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม ไม่เกินร้อยละ 4 อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท 
  • น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม เกินร้อยละ 4 แต่ไม่เกินร้อยละ 7 อัตราภาษีเดิม 5.990 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.200 บาท 
  • น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมเกินร้อยละ 7 แต่ไม่เกินร้อยละ 9 อัตราภาษีเดิม 5.930 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.170 บาท 

 

ทั้งนี้ อัตราภาษีใหม่ จะมีผลตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 20 พ.ค. 2565 จากนั้นตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2565 จะกลับสู่อัตราภาษีเดิม

 

“คาดการณ์ว่า จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประมาณ 17,100 ล้านบาท จากปริมาณน้ำมันที่มีการชำระภาษี 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 ที่จัดเก็บลดลงประมาณ 5,700 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่จะเป็นการช่วยเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร การท่องเที่ยวและบริการ และการขนส่ง” นาย ธนกร กล่าว