นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้ร่วมกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อพัฒนาช่องทางการชำระเงินของระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ผ่านการตัดบัญชีเงินสำรองบัตร Easy Pass / M-Pass แบบอัตโนมัติได้ โดยจะบูรณาการร่วมกันในการพัฒนาและปรับปรุงระบบงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ระบบ M-Flow มีประสิทธิภาพ และสามารถอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการเดิม รวมทั้งเป็นแรงจูงใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครใช้บริการใหม่อีกด้วย
ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ดำเนินการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาจราจรแออัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองมาโดยตลอด จนกระทั่งสามารถเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบได้ในวันนี้ (วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565) ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ทางที่มีบัตร M-Pass และบัตร Easy Pass ให้สามารถใช้บริการระบบ M-Flow ได้อย่างคล่องตัว
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในการบูรณาการความร่วมมือ โดยมีขอบเขตความร่วมมือ ดังนี้
1. พัฒนาช่องทางการชำระเงินของระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางระบบ M-Flow ผ่านการตัดบัญชีเงินสำรองบัตร Easy Pass/M-Pass แบบอัตโนมัติ โดยมีการพัฒนารูปแบบการชำระเงินเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การพัฒนาช่องทางการชำระเงินสำหรับผู้สมัครสมาชิก M-Flow ที่เป็นบุคคลเดียวกันกับเจ้าของบัตร ระยะที่ 2 การพัฒนาช่องทางการชำระเงินสำหรับผู้สมัครสมาชิก M-Flow ที่ไม่ได้เป็นบุคคลเดียวกันกับเจ้าของบัตร
2.ส่งเสริมให้ผู้ใช้ทางที่มีบัตร Easy Pass/M-Pass มาสมัครสมาชิก M-Flow เช่น การส่งแบบฟอร์ม เอกสารแนะนำ เชิญชวนทางไปรษณีย์ SMS E-mail รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ
3. การพัฒนาช่องทางการลงทะเบียนสมัครสมาชิก M-Flow สำหรับผู้ใช้ทางที่มีบัตร Easy Pass/ M-Pass ให้มีความสะดวก รวดเร็ว ในการสมัครสมาชิกระบบ M-Flow
ทั้งนี้การบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับการให้บริการระบบ M-Flow ให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เสริมประสิทธิภาพการเดินทาง รวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการพัฒนาระบบบริการให้รองรับความต้องการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของประชาชนในยุคดิจิทัล และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้อย่างยั่งยืน