ศบค. เล็งเปิด Test & Go รับต่างชาติ เพิ่มทางชายแดน-เรือยอร์ช

18 ก.พ. 2565 | 07:30 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.พ. 2565 | 15:01 น.

ที่ประชุม ศบค. รับทราบแผนเตรียมความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแบบ Test & Go ทั้ง การเปิดรับผู้เดินทางทางบก และทางน้ำ หรือเรือยอร์ช รูปแบบเป็นอย่างไรเช็ครายละเอียดที่นี่

การประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการนอกจากที่ประชุมได้รับทราบรายงานการเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Test & Go แล้ว

 

การประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานการเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Test & Go อื่น ๆ ของศูนย์ปฏิบัติการการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยวและกีฬา (ศปก.กก.) ซึ่งเสนอเรื่องน่าสนใจเข้ามาให้ที่ประชุมพิจารณารับทราบด้วย

 

นายกรัฐมนตรี ประชุม ศบค. ชุดใหญ่

นั่นคือแผนเตรียมความพร้อมการเปิดรับผู้เดินทางในระยะถัดไป แยกเป็น 2 กรณี ดังนี้

 

1.การเปิดรับผู้เดินทางทางบก โดยจังหวัดหนองคาย และจังหวัดอุดรธานี ณ ด่านชายแดนทางบก สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย-เวียงจันทน์) (One System One Command Center) แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ 

  • รูปแบบ Test & Go โดยกำหนดให้เป็นไปตามเงื่อนไขการรับผู้เดินทางในรูปแบบเช่นเดียวกับ Test & Go ทางอากาศ และใช้ระบบ Thailand Pass ในการลงทะเบียนเข้าด่านทางบก 
  • รูปแบบ One Day Trip ระหว่างเวลา 06.00 – 22.00 น. (ไม่พักค้างคืน) และกำหนดขอบเขตพื้นที่เฉพาะในรัศมี ๑๐ กิโลเมตร 

 

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาเปิดรับผู้เดินทางระยะต่อไป ซึ่งในระยะแรก จะดำเนินการเฉพาะกลุ่มผู้เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวก่อน

2. การเปิดรับผู้เดินทางทางน้ำ โดยเรือสำราญและกีฬา (ยอร์ซ) ในรูปแบบ Test & Go โดยตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง ได้แก่ 

  • ครั้งที่ 1 ในวันแรกตรวจบนเรือ (ลอยลำ) 
  • ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 ณ โรงพยาบาล คู่ปฏิบัติการหรือสถานที่ที่กำหนด และใช้ระบบ Thailand Pass ในการลงทะเบียนเข้าด่านทางน้ำ 

 

ทั้งนี้ในการดำเนินการอยู่ระหว่าง การหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำขั้นตอนการเปิดรับผู้เดินทางให้ชัดเจนและเป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข

 

อย่างไรก็ตามในการดำเนินการครั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. ได้มีข้อสังเกตและความเห็นของที่ประชุมด้วยว่า 

  1. การเปิดรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ Test & Go ควรพิจารณาความจำเป็นและความคุ้มค่าในการตรวจหาเชื้อ ด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 โดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ที่ยอมรับได้ทางการแพทย์ ควบคู่กับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
  2. การตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 1 ครั้ง สำหรับผู้เดินทางทางบกในรูปแบบ Test & Go ในเขตพื้นที่ติดต่อค้าขายชายแดน จะช่วยส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการค้าชายแดน จึงควรเร่งพิจารณาความจำเป็นและความคุ้มค่าในการกำหนดการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

 

อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มอบหมายให้ ศปก.กก. กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาต่อไป