นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าถึงกรณีสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน นั้นล่าสุดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยมีแผนรองรับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศยูเครน คือ
1.ติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับผลกระทบด้านโลจิสติกส์ให้กับผู้ประกอบการผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 2.กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมประสานและเผยแพร่รายชื่อผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทยที่มีความเชี่ยวชาญตลาดรัสเซียและ CIS 3.ร่วมมือกับสมาพันธ์ สมาคมด้านโลจิสติกส์ในการอำนวยความสะดวกหากพบปัญหาด้านโลจิสติกส์ โดยสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 2 และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก คอยรายงานความคืบหน้าต่อเนื่อง
“นายจุรินทร์ ให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างไทย-สหพันธรัฐรัสเซีย และไทย-ยูเครน เพราะในปี 2564 การค้าระหว่างไทย-รัสเซีย มีมูลค่า 2,780 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12.84 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไปยังรัสเซีย มูลค่า 1,028 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากรัสเซีย มูลค่า 1,752 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”
สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังรัสเซีย 5 อันดับแรก คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวสูง
ในหมวดสินค้าเกษตรและอาหาร ได้แก่ ยางพารา สิ่งปรุงรส อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลัง สินค้าที่ไทยนำเข้าจากรัสเซีย 5 อันดับแรก คือ น้ำมันดิบ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เครื่องบิน เครื่องร่อนอุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ
ส่วนยูเครน ในปี 2564 การค้าระหว่างไทย-ยูเครน มีมูลค่า 386.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 25.56 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไปยังยูเครน มูลค่า 134.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากยูเครน มูลค่า 251.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังยูเครน 5 อันดับแรก คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยางผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เม็ดพลาสติก สินค้าที่ไทยนำเข้าจากยูเครน 5 อันดับแรก คือ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและ ผลิตภัณฑ์