นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาร่วมด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน (ATF-JCC) ครั้งที่ 22 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ว่า ที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า เร่งรัดการลดอุปสรรคทางการค้า มาตรการที่มิใช่ภาษี และลดต้นทุนธุรกรรมทางการค้า เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ไทยได้ขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากสมาชิกอาเซียนเรื่องการใช้มาตรการทางการค้า
เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับความตกลงและอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ส่งออกของไทย ทั้ง มาตรการขออนุญาตวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาในเวียดนาม มาตรการนำเข้าแป้งข้าวเจ้าของมาเลเซีย และมาตรการนำเข้าสินค้าพืชสวน ยา ยางล้อ และเครื่องปรับอากาศของอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ติดตามการดำเนินการตามแผนการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน ซึ่งในปี 2564 อาเซียนมีการปรับปรุงการอำนวยความสะดวกทางการค้า และมีการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการค้าที่ดีขึ้น โดยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ย ในปี 2560 ซึ่งไทยมีคะแนนด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ดีเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และไทยยังมีความร่วมมือกับอาเซียนในการดำเนินงานตามแนวปฏิบัติเรื่องมาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียน (NTM Guidelines) เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีระหว่างกันในภูมิภาคอีกด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2564 การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 110.79 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 17.09% จากปี 2563 โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 65.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 17.24% และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 45.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 16.89%
สินค้าส่งออกสำคัญ อย่าง น้ำมัน ทองคำ แผงวงจรไฟฟ้า รถกระบะ เครื่องดื่ม เครื่องปรับอากาศ และรถยนต์นั่ง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ น้ำมัน พลังงานไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ เครื่องบันทึกเสียง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจรไฟฟ้า และถ่านหิน