นายคณพศ สิทธิวงศ์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมนิมาโน่ สวีทส์ ดีไซน์โฮเทลแห่งใหม่ล่าสุด ย่านถนนนิมมาน-เหมินท์ เชียงใหม่ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากประสบการณ์เดินทางไปหลายประเทศ ระหว่างทำ นิตยสารภาษาอังกฤษด้านการท่องเที่ยว ครอบคลุมทั่วเอเชีย รวมถึงการจัดแทรเวลแฟร์ในหลายประเทศ ทำให้มีโอกาสเดินทางเข้าพักโรงแรมหลากหลาย ได้พบปะผู้คนแวดวงโรงแรมและการบริหารจัดการโรงแรม
“เมื่อประมาณ 3 ปี ก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้จับมือเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัทในจีน เปิดโรงแรมเซ็นเตอร์พาร์ค บนถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 7 ขนาดเล็ก 10 ห้อง เป็นซิตี้โฮเทลเหมือนในฮ่องกง ภายในมีห้องพัก ล็อบบี้ ห้องอาหาร เท่านั้น ทำให้มีโอกาสทดลองการบริหาร และเห็นศักยภาพของโรงแรมว่า ถ้าจับถูกจุดแล้วไปได้”
“คณพศ” เล่าต่อว่า ช่วงเปิดเซ็นเตอร์พาร์คใหม่ๆ โรงแรมเต็มทุกวัน เพราะถนนนิมมานฯ คือ คีย์โลเคชั่นของเชียงใหม่ และสังเกตเห็นพฤติกรรมลูกค้าที่มาพัก ที่ตอนนั้นเป็นต่างชาติเป็นหลัก ทั้งลูกค้าจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี เข้ามาถึงห้องพักคือขอให้นอนสบาย เสร็จแล้วก็ออกไปเดินเล่น ซื้อของ เอาของเข้ามาเก็บ พัก 1 ชั่วโมงแล้วออกไปเดินเที่ยวต่อ ทำให้มองว่าโลเคชั่นมีผล ก็มาคิดว่าน่าทำธุรกิจด้านนี้
จึงมองหาที่ทำโครงการ 2 ต่อ ซึ่งส่วนนี้ทำเองทั้งหมดไม่เกี่ยวกับบริษัทจีนแล้ว เพราะพาร์ทเนอร์คนจีนไม่พร้อมจากปัญหาโควิด-19 ที่เขาก็ หนักอยู่ แต่ที่ดินก็ซื้อมาแล้วก็ต้องการ สร้างให้เสร็จแล้วเปิดเร็วๆ ภายในต.ค. ปี 2019 เพราะตอนนั้นคิดว่าโควิดคงอยู่ไม่นาน มาแล้วเดี๋ยวก็ไป
ที่ดินพร้อมให้เข้าก่อสร้างได้เดือนเม.ย. แต่ตามแบบผู้รับเหมาก่อสร้างบอกต้องใช้เวลา 1 ปี แต่เราต้องการให้เปิดได้ใน 7 เดือนตามกำหนด สุดท้ายเลือกใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างแบบ Modular System คือการสร้างห้องสำเร็จรูปจากโรงงาน แล้วยกมาประกอบบนฐานรากที่ทำเตรียมไว้ ซึ่งก็แล้วเสร็จทันกำหนด เปิดในช่วงโควิดระลอกแรกเริ่มคลี่คลาย มีผลตอบรับพอสมควร
นิโมน่า สวีทส์ เป็นโรงแรมที่ก่อสร้างแบบ Modular System แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย เทคโนโลยีก่อสร้างของประเทศญี่ปุ่น โรงงานอยู่ที่บางพระ จ.ชลบุรี ทำบ้านน็อคดาวน์ สำหรับป้องกันแผนดินไหว ส่งไปที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมดเป็นห้องสำเร็จรูปที่ทำมาเรียบร้อยจากโรงงาน วางระบบนํ้า ไฟฟ้า โทรศัพท์ แอร์ ใส่เตียงนอนมาพร้อม โดยผลิตที่โรงงานในชลบุรีอยู่ 5-6 เดือน
ส่วนที่ไซต์ก่อสร้างก็ทำฐานราก ตอกเสาเข็ม วางคานชั้นแรกกับช่องลิฟท์ และตัวสระนํ้า รอไว้ พอฐานรากเสร็จ ก็ยกห้องสำเร็จรูปใส่คอนเทนเนอร์ มาถึงก็พร้อมยกขึ้นติดตั้งเสร็จ 4 ชั้นใน 3 วัน จากนั้นก็ต่อระบบเข้าด้วยกันหมดแล้วเก็บงานตกแต่งอีกประมาณ 2 เดือน รวมเบ็ดเสร็จตั้งแต่เริ่ม 7 เดือน
ได้โรงแรม 4 ชั้น บนเนื้อที่ทั้งหมด 117 ตารางวา เนื่องจากถูกกำหนดความสูงจากเทศบาลห้ามเกิน 12 เมตร แบ่งเป็นห้องพัก 15 ห้อง เพื่อให้ขนาดห้องไม่เล็กเกินไปจนอึดอัด เริ่มต้นที่ 18 ตารางเมตร จนถึงห้องสวีทส์ 40 ตารางเมตร มีอ่างอาบนํ้า
ทุกห้องตกแต่งเรียบหรู ลงตัว เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และสิ่งให้ความบันเทิงครบครัน ภายใต้อาคารดีไซน์โฮเทล ที่ผ่านออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สวยงาม สร้างสรรค์ และมีเอกลักษณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ทั้งยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่จากมุมสูง และวิวดอยสุเทพได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
โครงสร้างเป็นเหล็กหนา แข็งแรง ผ่านการทดสอบรับแรงแผ่นดินไหว เมื่อติดตั้งต่อกันจะเป็นผนังสองชั้น (ดับเบิ้ลวอลล์) แข็งแรงเพิ่มเป็น 2 เท่า สามารถสร้างได้เร็ว ประหยัดเวลา แต่มีต้นทุนสูงกว่าก่อสร้างแบบปกติประมาณ 20% จากข้อจำกัดเรื่องความสูงมีห้องพักน้อย และที่ดินราคาค่อนข้างแพง จุดคุ้มทุนอยู่ที่ประมาณ 10 ปี
ตั้งแต่เปิดมาถือว่าสำเร็จ ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้คนมีกำลังซื้อในการออกเดินทางท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น ทำให้มีคนเข้าพักต่อเนื่องเฉลี่ย 50-75% บางคนมาซํ้าครั้งที่ 4 หรือ 5 แล้ว
“คณพศ” ยํ้าว่า มาทำ “นิมาโน่ สวีทส์” ด้วยความรัก ด้วยความชอบ ไม่ได้มุ่งเชิงธุรกิจโรงแรมเต็มตัว มองว่าโรงแรมถ้าจับจุดจริงๆ มีอนาคต โลเคชั่นคือคำตอบ
นภาพร ขัติยะ/รายงาน
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,763 วันที่ 6-9 มีนาคม พ.ศ.2565