นายชัยพร สุดสิน ประธานชมรมคนรักเหมืองทอง นำตัวแทนชาวบ้านรอบเหมืองทองอัครา ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นหนังสือและรายชื่อพร้อมลายเซ็นของชาวบ้านร่วม 200 คน แก่นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เพื่อยืนยันว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่ต่างเฝ้ารอให้เหมืองทองอัครากลับมาเปิดดำเนินการ
หลังจากที่ต้องตกงาน ครอบครัวแยกกันคนละทิศละทางเพื่อหางานท่ามกลางเศรษฐกิจฝืดเคือง และขอร้องให้ภาครัฐไม่หวั่นเกรงต่อคำข่มขู่ของกลุ่มเอ็นจีโอนอกพื้นที่
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวมีใจความสรุปได้ว่า เหมืองไม่ได้ก่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพแต่อย่างใด ซึ่งก็มีผลการพิสูจน์ตรวจสอบยืนยันไว้ชัดเจน
ในทางกลับกัน เหมืองช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และนำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกท่านปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศ ไม่ต้องเกรงกลัวต่อคำข่มขู่ของคนนอกพื้นที่ที่สร้างความสับสนแตกแยกเพื่อผลประโยชน์แอบแฝง
นายชัยพร สุดสิน กล่าวด้วยว่า เวลาที่ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องตกงานเพราะเอ็นจีโอสร้างเรื่องใส่ร้ายเหมืองประโคมข่าวจนเหมืองถูกปิด
แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่เห็นมีเอ็นจีโอองค์กรไหนเลยที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านในยามทุกข์ร้อน ทุกวันนี้เวลาชาวบ้านมีปัญหาอะไร คนที่หันหน้าไปร้องขอความช่วยเหลือเป็นคนแรกๆ ก็คือทีมงานของเหมือง
อย่างไรก็ดี การยื่นหนังสือดังกล่าวมีผู้ว่าฯ เป็นผู้รับหนังสือ พร้อมทั้งพูดคุยสอบถามชาวบ้านว่าเป็นคนในพื้นที่ตัวจริงเสียงจริงใช่หรือไม่ แล้วรู้สึกอย่างไรกับเหมือง ซึ่งชาวบ้านก็ส่งเสียงตอบกลับมา ยืนยันว่าตนอยู่ในพื้นที่รอบเหมืองจริง และต้องการให้เหมืองกลับมาเปิด
หลังจากนั้นผู้ว่าฯ ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีกลุ่มคัดค้านเดินทางมา แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่คนในพื้นที่
ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อปกป้องคนพิจิตร การดำเนินงานทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย โปร่งใสและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย