ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกรมขนส่ง ตรวจเช็คสภาพรถฟรี 2565 เปิดตรวจสภาพรถฟรี 20 รายการ ตั้งแต่วันนี้ – 15 เม.ย. 65 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ให้บริการตรวจสภาพความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์เบื้องต้นก่อนเดินทาง กว่า 20 รายการ โดยไม่คิดค่าบริการ ดังนี้
ซึ่งจะได้รับการดูแลจากช่างผู้ชำนาญงาน นอกจากนี้บางหน่วยงานยังมีบริการตรวจเช็กลูกหมากปีกนก ลูกปืนล้อ ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงท่อและข้อต่อน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพิ่มเติม ทั้งยังให้ส่วนลดค่าอะไหล่บางรายการอีกด้วย เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวที่ประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือไปพักผ่อนท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้มีการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เจ้าของรถจึงควรตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมก่อนเดินทางทุกครั้ง
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยตลอดการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง โดยสามารถนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศรวมกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2565
สำหรับกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทั้งเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักให้เจ้าของรถเห็นความสำคัญของการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถ เครื่องยนต์และอุปกรณ์ส่วนควบของรถก่อนการเดินทาง ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุที่เกิดจากความบกพร่องของตัวรถได้ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ได้แก่
อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ก่อนเดินทางทุกครั้งขอเน้นย้ำให้เตรียมความพร้อมของคนขับและยานพาหนะ รวมทั้งวางแผนและศึกษาเส้นทางล่วงหน้า ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่ยานพาหนะ หากมีอาการเมื่อยล้าระหว่างการเดินทาง ควรหยุดพักให้ผ่อนคลายก่อนเดินทางต่อ และต้องไม่ละเลยการป้องกันตนเองตามมาตรการด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด 19.
ที่มา:ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย