นายชัยพร สีถัน อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สถานะในตอนนี้จะให้ประกาศราคาขายไข่ไก่ เป็นนิติบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากกระทรวงพาณิชย์ ตอนนี้ทางสมาคมผู้ค้าเดิมต้องการให้มีสมาคม สหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์เป็นผู้ประกาศราคา เนื่องจากเป็นกลุ่มเกษตรกรโดยตรง
แต่กลุ่มเดิมที่ประกาศราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเป็นนักธุรกิจ ผู้ค้า รายใหญ่ ดังนั้นเมื่อกลุ่มนี้ประกาศราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม โดนผู้ใหญ่เล่นงานจึงส่งมาให้สหกรณ์-ชมรมเป็นผู้ประกาศรายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเอง เป็นครั้งแรก ซึ่งได้มีการประชุมกันนอกรอบเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่ามติตอนนี้คนที่ใกล้ชิดกับเกษตรกรที่สุดให้เป็นผู้ประกาศ แต่สหกรณ์ ชมรมไม่มีผู้ค้า ดังนั้นต่อไปนี้ทางสหกรณ์ ชมรม จะเป็นผู้ประกาศราคาขาย ครั้งแรก เริ่มตั้งแต่ วันที่ 21 เมษายน 2565 เป็นต้นไป
“เกษตรกร รวมกลุ่มเป็นสหกรณ์โดยใช้ยึดหลักต้นทุนในการประกาศราคาไข่ไก่ที่มีกำไรจากต้นทุน 20% ก่อนหน้านั้นให้อีกกลุ่มประกาศราคา มีบ้างที่ไม่ยอมให้ขึ้นราคา คัดค้านไม่เห็นด้วย มีปะปนกันในกลุ่มพ่อค้าทั้งรายเล็ก รายใหญ่ นายทุน แต่สหกรณ์ไม่มีนายทุน ดังนั้นจึงมีความชอบธรรมมากกว่าที่จะขอประกาศราคาขายไข่ไก่คะหน้าฟาร์ม”
ด้านนายมาโนช ชูทับทิบ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ส่งสาร์นผ่านแอพลิเคชันไลน์ ว่า ตนอยากคุยเรื่อง “ ลงเรือลำเดียวกัน “ คนเลี้ยงไก่ไข่มีสุขมีทุกข์จะเหมือนๆกันต่างเพียงฐานะและทุนที่ลงไปและความพร้อมที่จะขาดทุนและมีทุนที่จะขาด ( ทนได้ ) ที่เคยบอกว่าเปรียบเหมือนคนร่างเดียวกัน ฉะนั้นขณะนี้ความไม่แน่นอนไม่มั่นคงในอาชีพจึงเป็นเรื่องน่าคิดว่าจะไปทิศทางใด ความสามัคคีกันไว้ความเอื้ออาทรความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันจึงจำเป็นต้องทำให้เห็นหน้าที่ของแต่คนที่มีเราจึงต้องให้เกียรติกัน
รวมทั้งคนในวงการที่เกี่ยวข้องเช่นคนซื้อคนขาย แม้ราชการต่างทำหน้าที่ของตน หัวข้อที่ขึ้นต้นว่าลงเรือลำเดียวกันคงไม่ใช่เฉพาะคนเลี้ยงฯ เท่านั้นถ้ารวมถึงคนซื้อคนขายและราชการคงเป็นเรือลำใหญ่มากและต่างพึ่งพากันไปมา ทุกวันนี้น่าเป็นห่วงคนในวงการแม้คนกินไข่ต่างมีความกังวลสุดท้ายของวิกฤติจะเป็นเช่นไร ความไม่ประมาทและจัดการตนเองให้อยู่ในจุดเสี่ยงน้อยที่สุดหรืออยู่ในจุดที่ควบคุมได้จะเป็นคุณกับตัวเราเองอย่างมาก
"วันนี้ไม่อยากพูดถึงเรื่องต้นทุนกับราคาไข่เพราะเป็นไปตามกลไกตลาดอยู่แล้ว อย่าลืมว่าเราอยู่ในเรือลำเดียวกันย่อมมีสุขและทุกข์เหมือนๆกันอยู่ที่ว่าเราอยู่ในภาวะการณ์ไหน"