ความคืบหน้า “โครงการประกันรายได้ข้าว” อย่างมีต่อเนื่อง ล่าสุด ถึง งวดที่ 27-28 แล้ว ตามมติที่ประชุม เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 64 อนุมัติวงเงินรวม 76,080.95 ล้านบาท นั้น เกษตรกรมาตรวจสอบสถานะโอนเงิน ผ่านลิงค์ ธ.ก.ส. คลิก https://chongkho.inbaac.com ตลอด 24 ชั่วโมง
แหล่งข่าว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงผลการจ่ายเงินชดเชยในโครงการ “ประกันรายได้ข้าว” ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 โดย ธ.ก.ส.แจ้งผลการโอนเงิน ผ่านหนังสือ เลขที่ ฝนร./8515 ลงวันที่ 18 เมษายน 2565 สำหรับงวดที่ 1-16 รวมทั้งสิ้น 4,668,463 ครัวเรือน วงเงิน กว่า 8.6 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 98.38% ของวงเงินงบประมาณ กว่า 8.7 หมื่นล้านบาท คงเหลือวงเงินกว่า 1,418 ล้านบาท ยังโอนไม่สำเร็จ 497 ครัวเรือน และติด Block code จำนวน 332 ครัวเรือน
อย่างไรก็ดีในคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 ได้มีการสอบถามและตั้งข้อสังเกตจากกรมส่งเสริมการเกษตร ว่าทำไมตั้งแต่ งวดที่ 12 เป็นต้นมา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว มีจำนวนลดลง เนื่องจากจากเหตุใด
ทางผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร ชี้แจงว่า สาเหตุที่จำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนมีจำนวนลดลง เนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตรตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่าเกษตรกรบางรายปลูกข้าวไม่ตรงกับพันธุ์ข้าวที่ได้แจ้งไว้กับกรม โดยเฉพาะพันธุ์ข้าวหอมจัสมิน หรือข้าวหอมพวง หรือข้าวหอมเวียดนาม ที่มักจะมีปัญหา เนื่องจากเป็นพันธุ์ข้าวที่ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นข้าวหอมมะลิ บ่อยครั้งที่เกษตรกรถูกหลอกให้ซื้อข้าวพันธุ์นี้จากพ่อค้า ข้าวพันธุ์นี้จะไม่ไวต่อแสง ออกดอกตั้งแต่เดือนสิงหาคม และกันยายนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว แตกต่างจากข้าวหอมมะลิ
อัพเดท สถานะ ข้าวหอมจัสมิน/ข้าวหอมพวง/ข้าวหอมเวียดนาม
เช่นข้าวหอมมะลิ,กข 15, ซึ่งเป็นข้าวไวต่อแสง สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็วที่สุดประมาณ 20 ตุลาคม หาก กรมตรวจสอบแล้วพบว่าเกษตรกรแจ้งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนก็จะให้เกษตรกรเปลี่ยนแปลงพันธุ์ข้าวจากหอมมะลิเป็นข้าวเจ้า นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าเกษตรกรบางรายที่ขึ้นทะเบียนการปลูกรอบที่ 2 ซึ่งรัฐไม่มีนโยบายสนับสนุน