นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สมอ. ว่า บอร์ด สมอ. มีมติเห็นชอบให้ชิ้นส่วนท่อไอเสียรถจักรยานยนต์เป็นสินค้าทั่วไป โดยไม่กำหนดเป็นสินค้าควบคุม
ทั้งนี้ เนื่องจาก สมอ. ได้ประกาศให้ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์เป็นสินค้าควบคุมอยู่แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ จึงกำชับให้ สมอ. เร่งรัดดำเนินการทบทวนมาตรฐานท่อไอเสียรถจักรยานยนต์
พร้อมประกาศบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เป็นที่ยอมรับและแข่งขันได้กับต่างประเทศ
นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) กล่าวว่า การกำหนดมาตรฐานของ สมอ. จะคำนึงถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค โดยจะเปิดรับข้อคิดเห็นของทุกฝ่ายเพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดเป็นมาตรฐาน เพื่อให้มีความเหมาะสมในการนำไปใช้งาน และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ตลอดจนเพื่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
สำหรับมาตรฐานชิ้นส่วนท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ก็เช่นเดียวกัน ที่ กมอ. มีมติเห็นชอบให้เป็นมาตรฐานทั่วไปต่อไปนั้น โดยได้กำชับให้ สมอ. กำหนดมาตรการในการกำกับดูแลและควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐานด้วย ให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการทำชิ้นส่วนท่อไอเสียมาประกอบหรือดัดแปลง
รวมทั้งให้รายงานความคืบหน้าและความถี่ในการตรวจสอบ หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนรำคาญจากท่อไอเสียได้ ก็ให้นำกลับมาทบทวนอีกครั้ง
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า ขณะนี้ สมอ. อยู่ระหว่างการทบทวนแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ เพื่อให้มีความเหมาะสมในการนำไปใช้
และคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัย ตลอดจนลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะยังคงประกาศเป็นสินค้าควบคุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะประกาศบังคับใช้ภายในปี 2566
อย่างไรก็ดี ท่อไอเสียที่ได้มาตรฐาน มอก. ต้องทำจากวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน มีการควบคุมเรื่องระดับเสียงที่ต้องไม่เกิน 95 เดซิเบล (เอ) เพื่อควบคุมมลพิษจากเสียงของยานยนต์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. แล้ว จำนวน 70 ราย แบ่งเป็นผู้ทำ 47 ราย และผู้นำเข้า 23 ราย