นายธัชชญาน์พล อภิมนต์เตชบุตร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ในการส่งเสริมการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งมหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดยะลา เป็น 1 ใน 8 กิจกรรมภายใต้แผนการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ปี 2565 ของกรมฯ โดยการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานพันธมิตร หลายหน่วยงาน ประกอบด้วยหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์
สำหรับกิจกรรมหลักภายในงานจะประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ การแสดงและจำหน่ายสินค้าส่งออกชั้นนำมากกว่า 80 รายการ โดยเป็นสินค้าเด่นจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้ อาทิ สินค้าเกษตร อาหาร และสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดแต่ละจังหวัด เช่น ผลิตภัณฑ์จากยางพารา ผลิตภัณฑ์กระเป๋าใยตาลโตนด ผ้าบาติก ผลิตภัณฑ์จากกระจูด ข้าวเกรียบปลา ปลากุเลาตากใบ
โรตีสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์จากกล้วย นมถั่วเหลือง และน้ำพริก เป็นต้น การเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการการค้าชายแดนกับผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ และเวียดนาม
“อยากชวนประชาชนจังหวัดยะลาและจังหวัดใกล้เคียง เข้าเยี่ยมชมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม 2565 ณ บริเวณสวนน้ำเทศบาลเมืองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งมีสินค้าหลากหลายให้จับจ่ายใช้สอย และเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนของไทย”
ด้าน นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลา เป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการเชื่อมโยงการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวกับประเทศมาเลเซีย โดยมีด่านพรมแดนเพียง 1 ด่าน คือ ด่านพรมแดนเบตง ตั้งอยู่ในอำเภอเบตง ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ด่านพรมแดนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในภาคใต้ ในปี 2564 มีมูลค่าการค้า 3,644 ล้านบาท
แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 3,532 ล้านบาท การนำเข้า 112 ล้านบาท มีมูลค่าการค้ารวมสูงเป็นอันดับ 3 ของด่านพรมแดนไทยที่ติดกับประเทศมาเลเซีย รองจากด่านพรมแดนสะเดา และด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา มีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ยางพารา ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้อัด และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
“อำเภอเบตง นอกจากจะมีความสำคัญด้านการค้าและ การลงทุนแล้ว ยังมีความสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวด้วย โดยมีคำขวัญที่ว่า “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” มีจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม สามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี ทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่จะมาสัมผัสความสวยงามอย่างไม่ขาดสาย ถือเป็นเพชรเม็ดเอกในด้านการท่องเที่ยวและการพัฒนาของจังหวัดชายแดนภาคใต้”