นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค 2022 เปิดเผยว่าAPEC Business Advisory Council ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของภาคธุรกิจจาก 21 เขตเศรษฐกิจของเอเชีย-แปซิฟิกเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของประชาชน ผู้ที่ทำให้ธุรกิจของเราต่างดำเนินอยู่ได้ในวันนี้ ความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ อาทิ เหตุโรคระบาด และเหตุการณ์ระหว่างประเทศ
ได้สร้างผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งด้านการดำเนินธุรกิจ ด้านวิถีชีวิตของผู้คน และด้านการเติบโตของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยเหตุนี้ร่วมมือระหว่างสมาชิกของ APEC Business Advisory Council จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อพัฒนาบทสรุปคำแนะนำที่สะท้อนความต้องการของผู้คนในภูมิภาคอย่างแท้จริง และนำยื่นเสนอต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในช่วงปลายปี 2022
การดำเนินการประชุม APEC Business Advisory Council 2022 นั้นได้ผ่านวาระการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง คือครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15-18 กุมภาพันธ์ ณ ประเทศสิงคโปร์ และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25-28 เมษายน ณ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยการประชุมครั้งที่ 3 จะมีขึ้นในวันที่ 26-29 กรกฎาคม ณ ประเทศเวียดนาม
ส่วนการประชุมครั้งที่ 4 จะมีขึ้น ณ วันที่ 13-16 พฤศจิกายน ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังจะเป็นเจ้าภาพการจัดงาน APEC CEO Summit 2022 ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน อีกด้วย
ด้านนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธาน APEC CEO Summit 2022 และผู้แทนสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค 2022 ไทยกล่าวว่า ไทยเคยเป็นเจ้าภาพ APEC CEO Summit เมื่อปี 2003 และในปีนี้ APEC CEO Summit 2022 จะมีขึ้นอีกครั้งที่ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “EMBRACE ENGAGE ENABLE” โดยจะเป็นการจัดงานแบบ onsite เป็นครั้งแรก หลังจากที่มีระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ประเทศไทยมีความพร้อมในการต้อนรับผู้นำด้านธุรกิจ วิทยากรชั้นนำของโลก และซีอีโอกว่า 1,500 คนจากทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่จะเดินทางมาแลกเปลี่ยนมุมมองด้านเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โปรแกรมที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2022 จะประกอบด้วยการอภิปราย การนำเสนอ และการเจรจาในประเด็นต่างๆ ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม
APEC Business Advisory Council 2022 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ดำเนินการประชุมเพื่อผลักดันความก้าวหน้าของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกทั่วทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ โดยแบ่งเป็น 5 คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ 5 ด้าน ได้แก่ การบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Economic Integration), การเสริมสร้างศักยภาพด้านดิจิทัล (Digital), การส่งเสริมความพร้อมของธุรกิจในทุกขนาด (MSMEs and Inclusiveness),ความก้าวหน้าเชิงวิถีปฏิบัติด้านความยั่งยืน (Sustainability) และระบบการเงินที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นและสภาพแวดล้อมตอบโจทย์ (Finance & Economics) โดยผลการหารือจากแต่ละรอบการประชุมจะนำไปสู่การพัฒนาบทสรุปข้อเสนอแนะเพื่อยื่นต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในช่วงปลายปี 2022
โดยสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค 2022 ได้หารือความคืบหน้าในประเด็นสำคัญต่างๆ ครั้งล่าสุด ณ การประชุมครั้งที่ 2 ที่ประเทศแคนาดา โดยจากการประชุมครั้งดังกล่าว ตัวแทนภาคเอกชนได้เตรียมคำแนะนำ 8 ประการ เพื่อยื่นเสนอต่อที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีการค้าเอเปค ในวันที่ 21-22 พฤษภาคม 2022 นี้ โดยประกอบด้วย ข้อเสนอแนะเพื่อกระชับการบูรณาการทางเศรษฐกิจของภูมิภาค (1) การเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดในอนาคต
(2) การตระหนักถึงการวางแนวทางเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ FTAAP (3) สนับสนุนองค์การการค้าโลก และระบบการค้าแบบพหุภาคี (4) การสร้างความเข้มแข็งให้กับการค้าบริการ (5) การเปิดด่านชายแดนอีกครั้งด้วยการเดินทางที่ปลอดภัยและราบรื่น และข้อเสนอแนะเพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างยั่งยืน ไม่หยุดนิ่ง และครอบคลุม (6) การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน
ผ่านมาตรการทางการค้าและเศรษฐกิจ (7) การพัฒนาธรรมาภิบาลด้านดิจิทัลให้สูงขึ้น และ (8) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการ MSMEs ในตลาดต่างประเทศทั้งนี้ คำแนะนำที่มีความเร่งด่วนสูงสุดมี 3 ประการ คือ ด้านความมั่นคงด้านอาหาร ด้านดิจิทัล และด้านการค้าเสรีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP)
“ความท้าทายต่างๆ ในวันนี้ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของประเด็นความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน และความจำเป็นที่เราจะต้องเร่งพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) และมีระบบอาหารที่ยั่งยืน มีผลิตภาพ และโปร่งใสมีสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่พลังงานและอาหารมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ดวงดี, ผู้แทน สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค 2022 ไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคที่จะหมุนเวียนและเติบโตได้อย่างก้าวหน้า ก็ต่อเมื่อมีการค้าดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซ ที่ไหลลื่น มีเสถียรภาพ เชื่อถือได้ บริหารจัดการได้จากทุกที่ และใช้งานได้อย่างครอบคลุมทั่วถึงทุกเขตเศรษฐกิจ โดยเอเปคจำเป็นต้องผลักดันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) และโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล (Data infrastructure)
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์, ผู้แทนสำรอง สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค 2022 ไทย กล่าวเสริมว่า FTAAP เป็นสิ่งที่ APEC Business Advisory Council ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดย FTAAP เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของ APEC Putrajaya Vision 2040 ในการนี้ APEC Business Advisory Council มีความเชื่อมั่นว่าการส่งเสริมระบบการค้าแบบเปิดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และการขจัดมาตรการกีดกันทางการค้า จะนำมาซึ่งการเจริญเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนและครอบคลุมมาสู่ทุกเขตเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงจะช่วยเพิ่มมาตรฐานการครองชีพของประชาชนในภูมิภาคเอเปคต่อไป
ภายใต้ความภาคภูมิใจของประเทศไทยกับวาระการเป็นเจ้าภาพการประชุมสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค 2022 ที่สำคัญนี้ คุณสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค 2022 กล่าวปิดท้ายว่า “ในฐานะประธานและประชาชนคนหนึ่งที่เป็นส่วนหนึ่ง(EMBRACE) ของวาระที่สำคัญยิ่งนี้ ผมมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะผลักดันการมีส่วนร่วม (ENGAGE) และการทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเกิดความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรม (ENABLE) และขณะเดียวกัน ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ เราจะทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิเพื่อให้ทุกท่านเห็นได้ว่า เราในฐานะตัวแทนจะร่วมผลักดันข้อเสนอแนะที่สำคัญต่อเวทีโลกเพื่อผลประโยชน์ที่ยั่งยืนร่วมกันระหว่างเราทุกคน
ทั้งนี้สมาชิกในเขตเศรษฐกิจเอเปก ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บรูไนดารุสซาลาม แคนาดา ชิลี จีน ฮ่องกง จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ ไชนีสไทเป ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม
ABAC ก่อตั้งขึ้นโดยผู้นำเอเปกในปี 2538 เพื่อเป็นกระบอกเสียงหลักของธุรกิจในกลุ่มเอเปก แต่ละประเทศเศรษฐกิจมีสมาชิกสามคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้นำของแต่ละประเทศ มีการประชุมร่วมกันปีละสี่ครั้งเพื่อเตรียมพร้อมในการนำเสนอข้อเสนอแนะต่อผู้นำในการเจรจาซึ่งเป็นงานสำคัญในการประชุมผู้นำประจำปี ประเทศไทยในฐานะผู้นำ เอแบคกำลังดำเนินโครงการงานภายใต้หัวข้อ “Embrace. Engage. Enable” เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายในความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมั่นใจได้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน