นางสาวดวงใจ อัศวจินจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยผ่านการเสวนาหัวข้อ "เศรษฐกิจไทยยุคใหม่ ประเทศไทยก้าวต่อไปอย่างไร" ในงาน “ถามมา…ตอบไป เพื่อประเทศที่ดีกว่า” (Better Thailand open Dialogue) ว่า แนวทางการส่งสเริมการลงทุนในอนาคตบีโอไอจะขยายไปในทุกพื้นที่ของระเบียงเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาค อาทิ
ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันตก (Western Economic Corridor : WEC) เป็นต้น
ทั้งนี้ การส่งเสริมจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการส่งเสริมเชิงพื้นที่ เป็นการส่งเสริมแบบมุ่งเป้ากิจการ เนื่องจากแต่ละพื้นที่ก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นควรใช้นโยบาย ใช้ศักยภาพที่จะไปส่งเสริมพื้นที่ตรงนั้นแทนที่จะใช้แบบไม่ได้เลือก
อย่างไรก็ดี ยังมีมาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากที่บีโอไอดำเนินการอยู่ โดยมองว่าวิสาหกิจชุมชนที่อยู่ตามพื้นที่ทั่วไทย หากมีภาคเอกชนเข้าไปสนับนุน ก็ควรได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ เพื่อให้มีแรงไปสนับสนุน
จึงมีมาตรการออกมาว่า เอกชนไม่ว่าจะเคยได้ หรือไม่เคยได้บีโอไอ หากไปช่วยวิสาหกิจชุมชนให้เข้มแข็งขึ้น ให้มีเครื่อจักรอุปกรณ์ ให้สามารถปรบปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิตได้ก็จะได้รับสิทธิ์ไป รวมถึงเอกชนที่เข้าไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบบริหารจัดการน้ำ ก็สามารถมาขอได้ ที่ผ่านมามีเอกชนรายใหญ่เข้ามาร่วม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนโยบายเชิงพื้นที่ยังต้องเป็นหัวใจของรัฐบาลไทย
นางสาวดวงใจ กล่าวต่อไปอีกว่า ในอดีตนโยบายการส่งเสริมการลงทุนจะใช้เรื่องเขตเป็นหลัก เพื่อดึงนักลงทุนให้กระจายไปยังภูมิภาค ปัจจุบันตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นมา มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย เพื่อส่งเสริมธุรกิจที่มีเท็กซ์คอนเทนท์มากขึ้น ที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่เคยละทิ้งนโยบายเชิงพื้นที่ ซึ่งดึงดูดให้คนไปยังพื้นที่ภูมิภาคได้
"ทุกวันนี้ก็มีกำหนดนโยบายที่เป็นมาตรการพิเศษสำหรับพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เป้าหมาย เช่น อีอีซี ที่เป็นพื้นที่สำคัญ ที่เป็นตัวชูโรงเวลาที่พูดถึงนโยบายในการพัฒนาประเทศ หรือพื้นที่ SEZ ที่เป็นชายแดนที่มีเป้่าประสงค์เชิงนโยบายทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองด้วย หรือพื้นที่ชายแดนใต้ นอกจกานั้นยังมีพื้นที่เขตยากจน หรือพื้นที่ที่มีรายได้ต่ำ 23 จังหวัด โดยใช้เกณฑ์ข้อตกลง WTO ซึ่งรายได้เฉลี่ยจะต้องไม่เกิน 75% ของค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ"
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตก็จะต้องมองว่ามาตรการส่งเสริมด้านการลงทุนต้องไปดูว่า แนวทางของอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยจะไปในแนวไหน อะไรที่ทำได้ดี ทำได้เก่งต้องมุ่งเน้นไปส่งเสริมทางนั้น เช่น
อุตสาหกรรมภาคบริการ ซึ่งไทยอาจมีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคได้ โดยมองว่าโอกาสมีอยู่มากมายแต่จะต้องจับทางให้ได้ และร่วมมือกันทำทั้งรัฐและเอกชน