นายสัตว์แพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์สนองงานตามพระราชดำริจัดโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้บริการด้านสวัสดิภาพสัตว์แก่เกษตรกรและประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์ เป็นการแบ่งเบาพระราชกรณียกิจอีกทางหนึ่ง สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้ อยู่ห่างไกลและขาดโอกาส
มีการออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาพยาบาลสัตว์ บริการผสมเทียม ให้คำปรึกษาแนะนำด้านปศุสัตว์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสัตว์ กำจัดพยาธิภายใน - ภายนอก แจกยาและเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว เพี่อช่วยพัฒนาสุขภาพสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง เป็นการป้องกันโรคระบาดสัตว์และโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน ซึ่งการจัดโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ที่จังหวัดสงขลา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 68 แล้ว
การดำเนินงานโครงการสัตวแพทย์พระราชทานฯ ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2550 โดยจัดกิจกรรมปีละ 4 ครั้ง ปี 2565 นี้เป็นปีที่ 15 ของโครงการ ได้ดำเนินการจัดที่จังหวัดอุทัยธานี เชียงราย และสงขลานับเป็นการดำเนินงานครั้งที่ 68 แล้ว โดยครั้งต่อไปกำหนดจัดที่จังหวัดนครพนมในเดือนสิงหาคมนี้ กรมปศุสัตว์ร่วมกับสัตวแพทย์สภา หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา ที่ดำเนินงานด้านปศุสัตว์ ได้ร่วมถวายงานในด้านการช่วยเหลือเกษตรกผู้เลี้ยงสัตว์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เพื่อให้เกิดความกินดีอยู่ดีของประชาชนชาวไทยตามพระราชประสงค์ และดำเนินโครงการสัตวแพทย์พระราชทานในพระราชดำริฯ ครั้งที่ 68 นี้ กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 18–20 พฤษภาคม 2565 ณ จังหวัดสงขลา ในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอรัตภูมิ อำเภอควนเนียง อำเภอระโนด และอำเภอสทิงพระ ให้บริการด้านสัตว์เล็ก ได้แก่ สุนัข แมว และสัตวใหญ่
ได้แก่ โคเนื้อ กระบือ และโคนม ในเรื่องของการบริการตรวจสุขภาพ การรักษาสัตว์เจ็บป่วย การวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า การผ่าตัดทำหมัน การกำจัดพยาธิภายใน ภายนอก การแก้ไขปัญหาการผสมติดยาก การฉีดวัคซีนป้องกันโรคเฮโมรากเชฟติซีเมีย การฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยการถ่ายพยาธิ อาหารเสริมบำรุงสุขภาพสัตว์ เก็บตัวอย่างตรวจสุขภาพประจำปี และการแก้ไขปัญหาสุขภาพสัตว์ตามฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีการอบรมให้ความรู้ในด้านต่างๆ ที่เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่สนใจด้วย เช่น การป้องกันโรคและการดูแลสุขภาพสัตว์ในเบื้องต้น
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรให้สามารถประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์ ได้อย่างยั่งยืนและสานต่อโครงการพระราชดำริ เป็นการน้อมนำศาสตร์พระราชาไปสู่การปฏิบัติและประยุกต์ให้สอดคล้องเหมาะสมกับชุมชนและพื้นที่ช่วยให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์มากขึ้นบนพื้นฐานทรัพยากรของท้องถิ่นนั้นๆ มุ่งสร้างอาชีพ
สร้างความมั่นคงทางอาหาร ทำให้ชุมชนยั่งยืน กรมปศุสัตว์จะพัฒนางานด้านปศุสัตว์ให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนองพระราชดำริ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกภาคส่วน รวมทั้งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จะตั้งใจและร่วมมือกันดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ