ระงมกันไปทั้งจังหวัด เมื่อเชียงรายตกขบวน ไม่ได้ร่วมประเดิมเปิดด่านรับคนสัญจรผ่านเข้าออก ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านใน 17 จังหวัด รวม 31 ด่าน ที่เริ่มเมื่อ 1 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นจังหวัดมีด่านถาวรติดต่อกับทั้งเมียนมาที่ อ.แม่สาย และสปป.ลาวที่อ.เชียงแสนและอ.เชียงของ ทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะพ่อค้าชายแดนในพื้นที่โอดครวญ ว่าเสียโอกาสครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม หลังจากไทยประกาศเปิดด่านรับคนผ่านเข้าออกกับเพื่อนบ้าน ทางการสปป.ลาวตอบรับและสั่งเปิดด่านรอบประเทศสู่กระบวนการปกติก่อนเกิดโควิด-19 ตั้งแต่ 9 พ.ค. 2565 เช่นกัน จังหวัดเชียงรายจึงประชุมหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่สรุปว่าให้นัดหมายประชุมระหว่างผู้บริหารจังหวัดเชียงรายกับผู้บริหารพื้นที่ของเขตติดต่อในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเปิดด่านให้คนผ่านเข้า-ออกระหว่างกันให้เร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ”รายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำนายพินิจ แก้วจิตคงทองรองผู้ว่าฯ พร้อมตัวแทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปที่ห้องประชุมที่ว่าการแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
เพื่อประชุมร่วมกับท่านจอมสี รัตตะนะบัน ประธานสภาผู้แทนประชาชนแขวงบ่อแก้ว ท่านเขื่อนเพ็ด วงจัน รองเจ้าแขวงบ่อแก้ว พร้อมตัวแทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือคือ เรื่องการเปิดให้มีการเดินทางเข้าออก ผ่านจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ระหว่างจังหวัดเชียงรายกับแขวงบ่อแก้ว
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยภายหลังจากประชุมว่า จังหวัดเชียงรายและแขวงบ่อแก้ว เห็นชอบอนุญาตให้บุคคลสามารถเดินทางเข้าออก จุดแดนถาวรไทย-ลาว ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและแขวงบ่อแก้ว ทั้ง 4 จุด ประกอบด้วย
1. จุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาวท่าเรือบั๊ก ต.เวียง อ.เชียงของ-เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว
2. จุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว สะพานข้ามแม่นํ้าโขงแห่งที่ 4 เชียงของ–ห้วยทราย
3. จุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาวสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก อ. เชียงแสน-เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว และ
4. จุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ท่าเรือผ่านแดนไทยลาว เยื้องหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน-เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไx
ส่วนจุดผ่อนปรนไทย-ลาว ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่มีอยู่จำนวน 6 จุด ได้แก่ จุดผ่อนปรนสบรวก ต.เวียงอ.เชียงแสน, จุดผ่อนปรนบ้านสวนดอก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน, จุด ผ่อนปรนบ้านหาดบ้าย ต.ริมโขง อ. เชียงของ, จุดผ่อนปรนบ้านแจ๋มป๋อง ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น, จุดผ่อนปรนบ้านห้วยลึก ต.หล่ายงาว และจุดผ่อนปรนบ้านร่มโพธิ์ทอง ต.ตับเต่า อ.เทิง
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ได้แจ้งกับคณะของแขวงบ่อแก้วว่า จังหวัดเชียงรายพร้อมเปิดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับราษฎรที่อยู่ห่างไกลจากจุดผ่านแดนถาวร แต่ได้รับคำตอบจากทางแขวงบ่อแก้วว่าจะเร่งรัดเสนอไปยังส่วนกลาง เพื่อให้เปิดจุดผ่อนปรนเฉพาะการค้าขายสินค้าระหว่างกันก่อน โดยยังไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้าออกของบุคคล
ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเปิดได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 นี้
อนึ่ง สำหรับการเดินทางเข้าออกผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ที่จังหวัดเชียงราย ยังคงดำเนินการภายใต้มาตรการความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข ตามที่ ศบค. กำหนด คือผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบทั้งสามเข็ม ไม่ต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR ผู้ที่ยังไม่ได้ รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบ ให้ยืน ยันผลตรวจ RT-PCR ที่ผลเป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมง
หากพบว่าผลเป็นบวกต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลา 5-7 วัน โดยหากเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยสามารถเข้าพักสถานกักกันที่ราชการจัดให้ได้ ส่วนผู้ที่เป็นบุคคลสัญชาติอื่น ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักตัวเอง รวม ทั้งผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ต้องลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น Thailand Pass ด้วย
เท่ากับจังหวัดเชียงรายปลดล็อกให้เปิดด่านกับเพื่อนบ้านด้านสปป. ลาวลุล่วงไปแล้ว ส่วนด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ที่อ.แม่สาย-เมืองท่าขี้เหล็ก นั้น ยังต้องลุ้นผลประชุมร่วมระดับพื้นที่ 2 ฝ่าย ที่มีนัดหารือกันในวันที่ 24 พ.ค. 2565 นี้ โดยฝ่ายไทยขอหารือเปิดด่านให้บุคคล-สินค้าผ่านเข้าออก จุดผ่านแดนถาวร 2 จุด และจุดผ่อนปรนการค้า 5 จุด ตามแนวพรมแดนไทย-เมียนมา ไปถึงบ้านสบรวก ติดเขตอ.เชียงแสน
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยแจ้งพร้อมเปิดด่านตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2565 นี้ ผลการหารือจะฉลุยหรือไม่ ต้องรอลุ้น
ชัยณรงค์ สีนาเมือง/รายงาน
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,785 วันที่ 22-25 พฤษภาคม พ.ศ.2565