เปิดสาเหตุ กทพ.จ่อปรับค่างานโยธาพุ่ง 5% สร้างทางด่วนกะทู้-ป่าตอง
กทพ.เล็งทบทวนปรับค่างานโยธา 5% สร้างทางด่วนกะทู้-ป่าตอง 1.4 หมื่นล้านบาท เหตุราคาน้ำมันพุ่ง กระทบค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น ลุยเปิดประมูลปลายปีนี้ ดึงเอกชนร่วมทุน 35 ปี เริ่มสร้างต้นปี 67 เปิดให้บริการปี 70
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) และหนังสือการรักษาข้อมูลเป็นความลับและไม่มีส่วนได้เสีย โครงการทางพิเศษสายกระทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร ที่ได้ดำเนินการภายใต้รูปแบบคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) วงเงินลงทุน 14,670 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 5,792 ล้านบาท และค่าก่อสร้างรวมค่าควบคุมงาน 8,878 ล้านบาท ปัจจุบัน กทพ. อยู่ระหว่างพิจารณาสาระสำคัญของร่างประกาศ การเปิดรับฟังความคิดเห็นเชิญชวนเอกชวนร่วมลงทุน (RFP) ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการเปิดรับฟังความเห็นของภาคเอกชน ภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2565
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดรับฟังแล้วเสร็จ กทพ.จะเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตร 36 เพื่อพิจารณาเห็นชอบร่างประกาศเอกสารการประกวดราคา ภายในเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2565 โดยคาดว่าจะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ภายในปลายปี 2565 และเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอร่วมประมูลโครงการภายในกลางปี 2566 หลังจากนั้นเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนในช่วงปลายปี 2566 เริ่มก่อสร้างในช่วงต้นปี 2567 และเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2570
"ในปัจจุบัน กทพ.มีแผนทบทวนงบประมาณค่าก่อสร้างเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าวัสดุก่อสร้างมีราคาสูง โดยคาดว่างบประมาณค่าก่อสร้างจะมีการปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5% คาดว่าจะดำเนินการทบทวนแล้วเสร็จก่อนเปิดรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน"
นายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการร่วมลงทุนรูปแบบ PPP Netcost ในลักษณะในภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ขณะที่ภาคเอกชนรับผิดชอบการออแบบรายละเอียด และการก่อสร้าง รวมถึงค่าควบคุมงาน และการดำเนินงาน การบำรุงรักษา (O&M) โดยเอกชนจะเป็นผู้จัดเก็บรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมด มีระยะเวลาการร่วมลงทุน 35 ปี นับจากวันที่การทางมีหนังสือแจ้งในเริ่มงาน (NTP) แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 การออกแบบและก่อสร้าง มีระยะเวลาไม่เกิน 4 ปี นับจากวันที่ กทพ.มีหนังสือแจ้งในเริ่มปฏิบัติงาน ระยะที่ 2 การดำเนิงานและการบำรุงรักษามีระยะเวลานับจากสิ้นสุดระยะเวลาสำหรับงานในระยะที่ 1 โดยมีระยะเวลารวมทั้งระยะที่ 1-2 ไม่เกิน 35 ปี
ทั้งนี้จากผลการศึกษาโครงการฯ พบว่ามีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ (EIRR) กับ 20.44% ขณะที่ ผลตอบแทนด้านการเงิน มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 1,734 ล้านบาท Equity Irr 8.50% อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน (B/C ratio) 1.12 เท่า ระยะเวลาคืนทุน 21 ปี
อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการนี้เปิดให้บริการคาดว่าจะมีปริมาณการจราจรประมาณ 7.1 หมื่นคันต่อวัน แบ่งเป็น รถยนต์ 3.6 หมื่นคัน และรถจักรยานยนต์ 3.5 หมื่นคันต่อวัน ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นทางด่วนสายแรกที่มีการเปิดให้บริการรถจักรยายนต์ สามารถใช้บริการได้ส่วนอัตราค่าบริการ รถจักรยานยนต์ จะอยู่ที่ 15 บาท ส่วนรถ 4 ล้อ อยู่ที่ 40 บาท รถ 6-10 ล้อ อยู่ที่ 80 บาท และมากกว่า 10 ล้อ อยู่ที่ 120 บาท