นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงกรณีที่สหรัฐฯเตรียมยกเลิกการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.50 แสนล้านดอลลาร์จะหมดอายุลงโดยอัตโนมัติในวันที่ 6 ก.ค. ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะไม่ขยายระยะเวลาการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ นั้นไทยเองไม่ได้รับผลกระทบไ เพราะการค้าการส่งออกของไทยยังคงเดินหน้าไปปกติ แต่การยกเลิกสงครามการค้าของ2 มหาอำนาจนั้นแน่นอนว่า
ส่งผลดีภาพรวมการค้าของโลกที่จะผ่อนคลายลง กำลังซื้อต่างๆจะกลับมา ความตึงเครียดในมาตรการกีดกันทางการค้าที่มีต่อกันก็จะดีขึ้น ซึ่งการที่สหรัฐฯลดการด์ด้านภาษีลง ก็อาจจพะทำให้หลายๆประเทศที่มีการตั้งการ์ดด้านภาษีมีการคลี่คลายลงตาม ซับพลายทั่วโลกที่หายไปปีนี้ถ้าใครมีสินค้าอยู่ในมือก็จะเป็นโอกาสในการค้าขายมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาซับพลายทั่วโลกหายไปกว่าครึ่งั้งจากสงครามการค้า และสงครามรัสเซีย-ยูเครน
“ผลพลอยได้จากการยกเลิกสงครามการค้าของสหรัฐฯคือการค้ามีการผ่อนคลายลง ไทยเองแม้จะไม่ได้รับผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ เพราะสินค้าที่ไทยเคยส่งไปจีนหรือส่งไปที่สหรัฐ เพื่อทดแทนช่วงที่เกิดสงครรามการค้าก็ยังคงส่งออกได้ตามปกติ ดังนั้นการยกเลิกสงครามการค้าของสหรัฐฯ ทำให้การค้าทั่วโลกผ่อนคลายลงและหลายๆประเทศก็จะผ่อนคลายตาม”
สอดคล้องกับนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่าส่งผลดีทั้งกับไทยและกับทั่วโลก ที่สถานการณ์การค้ามีความผ่อนคลายลง ความเชื่อมั่นกลับมาก มีคำสั่งซื้อที่หายไปช่วงหนึ่งเพิ่มขึ้น
ส่วนสินค้าไทยยังส่งออกไปได้ทั้ง2ตลาด ดังนั้นมั่นใจว่า ทั้งปีการส่งออกไทยโตมากกว่า5%แน่นอน และในวันที่7มิถุนายนจะมีการประเมินการส่งออกไทยครึ่งปีหลังอีกครั้ง
ส่วนสินค้าไทยที่ยังคงเป็นพระเอกในครึ่งปียังคงเป็นกลุ่มอาหารและอาหารแปรรูป สินค้าเกษตรและผลิตแปรรูป รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์