นายทรงชัย มุ่งประสิทธิชัย นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมนิว ซีซั่น สแควร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้นำบริษัทนำเที่ยวจำนวน 50 ราย พร้อมนักท่องเที่ยวอีก 200 คน เดินทางมาเพื่อพบและเจรจาธุรกิจ กับบริษัทนำเที่ยวจังหวัดสงขลา และจาก 12 จังหวัดภาคใต้ ประมาณ 40 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี หลังจากที่เกิดระบาดเชื้อโควิด-19 ที่ผู้ประกอบการได้มีการโอกาสพบ และเจรจาธุรกิจการท่องเที่ยวกัน
กิจกรรมนี้มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน อาทิ ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว นายจรูญ แก้วมุกดากุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา
พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ นายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทยเขตภาคใต้ และประธานคณะทำงานฝ่ายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเทศบาลนครหาดใหญ่ นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา นายบัญญัติ พัทธธรรม ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง เป็นต้น
“ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยท่านรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ กล่าวชมว่า สมาคมฯจัดงานได้ดีสำหรับการท่องเที่ยวสงขลาและภาคใต้ ที่ให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ได้มาพบและเจรจาการทำธุรกิจกัน เพื่อสนับสนุนนักเดินทางให้เข้ามาท่องเที่ยว”
นายทรงชัย กล่าวและว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวต้องการที่จะดึงนักท่องเที่ยวหลักของจังหวัดสงขลา คือ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และคาดว่าหลังจากที่ผู้ประกอบการทั้ง 2 ประเทศได้มาพบปะและเจรจาธุรกิจกัน แนวโน้มการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาจะค่อย ๆ ดีขึ้น
การพบกันครั้งนี้นอกเหนือจากการเจรจาธุรกิจกันแล้ว ทางผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวมาเลเซียยังได้สะท้อนปัญหา เพื่อฝากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขใน 3 ประเด็นใหญ่ ประกอบด้วย
1.อยากให้รัฐบาลไทยยกเลิกไทยแลนด์พาสเร็วหน่อยได้หรือไม่ เนื่องจากการเข้าระบบไทยแลนด์พาส เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เนื่องจากต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายสูง ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังไม่อยากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จึงอยากให้มีการยกเลิกไทยแลนด์พาส
2. อยากให้พิจารณการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านฯ ในการอำนวยความสะดวก เช่น การตรวจคนเข้าเมือง ให้มีความพร้อมในการให้บริการมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว เนื่องจากอดีตที่ผ่านมายังมีปัญหาเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ทำให้เกิดความล่าช้า บางครั้งต้องรอเป็นเวลานาน 1-2 ชั่วโมง
3.เมื่อด่านฯเปิดแล้วจะมีรถบัสนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่จะเข้ามาจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีรถบรรทุกสินค้าเข้า-ออกระหว่างประเทศ มาเข้าแถวรอคิวเข้ารับบริการ ทำให้เสียเวลา จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาและจัดระบบ เพื่อรองรับรถบัสนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่จะเดินทางเข้ามา เพื่อไม่ให้เสียเวลานานเกินไป
ทั้งนี้ ศบค. ให้ปรับมาตรการโดยคนไทยไม่ต้องลงข้อมูลระบบ Thailand Pass ตั้งแต่ 1 มิ.ย.2565 แต่คนต่างชาติที่จะเดินทางเข้าราชอาณาจักร ยังต้องลงข้อมูลในระบบนี้ แต่ปรับให้ง่ายและสะดวกขึ้น รวมทั้งยังต้องมีประกันสุขภาพที่วงเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,789 วันที่ 5 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2565