หลังจากที่เว็บไซต์ DealStreetAsiaSEA รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า “ช้อปปี้” (Shopee) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ประกาศปลดพนักงานจำนวนมากในภูมิภาคอาเซียน ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม รวมถึงไทย โดยเฉพาะในส่วน ShopeePay และ ShopeeFood ที่คาดว่าจะปลดพนักงานมากถึงครึ่งหนึ่ง
ช้อปปี้ Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ในเครือของ Sea Group จากประเทศสิงค์โปร์ โดยเข้ามาลงทุนด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย มาเกือบ 11 ปีแล้ว ผ่านบริษัทเกมส์ชื่อดังอย่าง “การีนา ออนไลน์” ก่อนที่จะมาเปิดแพลตฟอร์ม E-Commerce “ช้อปปี้” (Shopee)
ขณะที่ข้อมูลของ Creden data ระบุว่า ผลประกอบการ Shopee และบริษัทในกลุ่ม SEA ประเทศไทย ในปี 2564 SEA ประเทศไทย มีรายได้สูงถึง 43,282 ล้านบาท ขาดทุน 5,908 ล้านบาท
ผลประกอบการของ 9 บริษัท ประกอบด้วย
ขณะที่ข้อมูลของ Creden data ระบุ ช้อปปี้ ประเทศไทย ขาดทุนในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท
โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ปี 2564 บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด มีรายได้อยู่ที่ 13,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.18% ขาดทุน 4,972 ล้านบาท คิดเป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้น 19.24% จากปี 2563 ที่ขาดทุนรวม 4,170 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจของ Sea Group แบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจได้แก่
โดยผลประกอบการของ Sea Group ในปี 2562 มีรายได้มาจาก
อย่างไรก็ดี หลังการประชุม Town Hall ระหว่างประเทศของ Sea Group ในวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทแม่ตัดสินใจปลดพนักงานจำนวนมาก แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการปลดพนักงานของช้อปปี้ เพราะในเดือนมีนาคม 2565 Shopee ประกาศเลิกกิจการในอินเดีย โดยเลิกจ้างพนักงานกว่า 300 คนในประเทศ หลังจากที่เข้าไปดำเนินธุรกิจได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น และในกุมภาพันธ์ 2565 Shopee ก็ประกาศเลิกกิจการในฝรั่งเศสด้วย