หลังจากที่ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเดินหน้าขอปรับราคาสินค้ากับกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์เนื่องจากแบกรับต้นทุนที่พุ่งสูงไม่ไหว เพราะราคาน้ำมัน วัตถุดิบต่างปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตทั้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องปรุงรส เครื่องดื่มน้ำอัดลม เครื่องใช้ภายในครัวเรือน เริ่มออกมาประกาศจะปรับราคาสินค้าในเดือนมิถุนายนนี้หรือกรกฎคม
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เองได้ออกมาเบรกห้ามผู้ผลิตขึ้นราคาสินค้าและจะตรึงราคาสินค้าให้ได้นานที่สุด
ทั้งนี้ในวันนี้(16มิถุนายน) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จะมีการประชุมกกร.เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า และคาดว่าในวาระการประชุมน่าจะมีประเด็นการขอปรับขึ้นราคาสินค้าของผู้ผลิตเพื่อพิจารณาหาแนวทางออกให้กับทุกฝ่าย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ ได้ขอปรับขึ้นราคามาม่าจากเดิน6บาทต่อซองเป็น7บาทต่อซองจากกระทรวงพาณิชย์เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุม โดยที่ขอปรับขึ้นราคา เนื่อง จากวัตถุดิบและน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าของเครือสหพัฒน์โดยรวมสูงขึ้นเฉลี่ย 50-300% ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบแต่ละชนิด
โดยเฉพาะแป้งสาลีที่เพิ่มขึ้นมากและส่งผลกระทบต่อต้นทุนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (มาม่า) แต่ถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติ รวมถึงผงซักฟอกด้วยที่ได้ยื่นขอปรับราคาเช่นกัน
ทั้งนี้ทางมาม่าอยากขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งพิจารณาอนุมัติขึ้นราคาใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพราะต้นทุนปรับขึ้นทุกวัน กระทรวงเชิญผู้ผลิตไปหารือหลายครั้ง ขอให้ผู้ผลิตอดทนและตรึงราคาออกไปอีกนิดหนึ่ง ซึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต้องยอมรับว่าอั้นราคาไว้มานานจนขาดทุน และไม่ใช่มาม่าคนเดียวที่ขอขึ้นราคา ขอกันทุกยี่ห้อทั้งนี้อาจจะตรึ่งราคาได้ไม่นาน