นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด กล่าวว่า ททท.ตราด ได้นำเสนอเกาะขายหัวเราะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยได้ทำงานร่วมกับกลุ่มบริษัทในเครือบันลือกรุ๊ป ผู้ผลิตหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ซึ่งเป็นเจ้าของคำว่า “ขายหัวเราะ” ทำการโฆษณา และประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ “เกาะขายหัวเราะ” ในรูปแบบ Soft Power
โดยใช้แก๊กคลาสสิก “คนติดเกาะ” ในการ์ตูน เลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยววัยทำงาน ถือเป็นมิติใหม่ที่เกิดจากความเข้ากันพอดี ของสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดตราด กับภาพจำของหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ที่มีฉากตัวการ์ตูนติดเกาะในทะเล ที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่เพียงต้นเดียว
ททท. จึงนำ 2 สิ่งนี้มารวมกัน เพื่อตอกย้ำเอกลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลตราด ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอเกาะกูด โดยเฉพาะเกาะหมาก ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเดินทางมาสัมผัสเกาะชายหัวเราะด้วย
ส่งผลให้วันนี้ เกาะขายหัวเราะมีความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจาก กิ่งหัก รากถูกเหยียบย้ำ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากนักท่องเที่ยวเดินทางมามาก และไม่ระมัดระวังในการเข้าชม รวมทั้งมีสาเหตุจากธรรมชาติด้วย จึงต้องเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ก่อนที่จะเกิดความเสียหาย และอาจจะทำให้ต้นตะบันในเกาะขายหัวเราะตายไปได้
ผอ.ททท.สำนักงานตราด กล่าวด้วยว่า การท่องเที่ยวเกาะแก่งและชายทะเลตราดกำลังฟื้นกลับมา โดยหลังจากเข้ามาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตราด ได้มองเห็นศักยภาพของเกาะหมาก ในการที่จะเป็นศูนย์กลางของกลุ่มเกาะใกล้เคียง อาทิ เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะขายหัวเราะ เกาะระยั้งนอก
รวมถึง ใกล้จุดดำน้ำหลักของทะเลตราด อย่างเช่น หมู่เกาะรัง เกาะหมาก จากที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ค่อนข้างพร้อม มีที่พักให้เลือกหลากหลาย ร้านอาหารของชุมชนจำนวนมาก การเดินทางเข้าถึงที่สะดวก
อีกทั้ง เป็นต้นแบบการท่องเที่ยว Low Carbon Destination หนึ่งในรูปแบบท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism: RT) นำไปสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ตามนโยบายรัฐบาล ในการพัฒนาประเทศและระบบเศรษฐกิจไทย
อย่างยั่งยืน ตามแนวคิด BCG Economy Model
สำหรับเกาะขายหัวเราะเป็นส่วนหนึ่งของเกาะนกนอก ซึ่งเชื่อมมาจากเกาะนกใน และเกาะกระดาด เกาะนี้จะมีจังหวะที่โผล่พ้นน้ำในช่วงน้ำลด ซึ่งจะเห็นพื้นที่เกาะเล็กน้อยและมีต้นไม้ (ต้นตะบัน) ขึ้นอยู่เพียงต้นเดียว ปรากฏภาพที่คล้ายกับฉากคลาสสิกของหนังสือขายหัวเราะพอดี นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ผ่านมาพบเห็นต่างพากันเรียกว่า“เกาะขายหัวเราะ” ซึ่งต้องกาวิธีรักษาไว้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน
นายนิพนธ์ สุทธิธนากุล ประธานชมรมท่องเที่ยวเกาะหมาก เปิดเผยว่า ต้นตะบัน ในเกาะขายหัวเราะ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาก หลังจากทางททท.สำนักงานตราดได้จัดกิจกรรมทางการตลาด และสร้างเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวของเกาะหมาก และเกาะใกล้เคียง
แต่ก็ยอมรับว่า การที่ต้นตะบันในเกาะขายหัวเราะเสียหายนั้น มาจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยทางธรรมชาติด้วย ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจำนวนมาก และไม่เข้าใจในการเดินทางเข้าไปชมแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเหตุอื่นๆ
“ผมเพิ่งกลับจากเกาะกระดาษพร้อมกับนักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้ายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบว่า กิ่งต้นตะบันในเกาะขายหัวเราะหัก เนื่องจากมีลมพัดกิ่ง และทราบว่า นักท่องเที่ยวมาโหนเพื่อถ่ายรูปให้ได้บรรยากาศติดเกาะ
นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวอีกมาก ที่เดินทางโดยไม่ผ่านการขึ้นท่าเรือที่เกาะกระดาษ แต่กลับไปจอดที่บริเวณเกาะขายหัวเราะโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าผ่านทาง 200 บาท ทำให้ไม่สามารถควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวได้
ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเร่งแก้ไข และสร้างความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้ เพราะต้นตะบันต้นนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 70-80 ปี”
ขณะที่นายนล สุวัจนานนท์ นายกอบต.เกาะหมาก เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องต้นไม้ในเกาะขายหัวเราะเสียหายและทรุดโทรมลงนั้น ได้รับทราบแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่า กิ่งต้นตะบันหักลงมาบางส่วน ซึ่งน่าจะมาจากการที่นักท่องเที่ยวเข้าไปชม และอาจจะเข้าไปโหนหรือโน้มกิ่ง และอีกส่วนเกิดจากภัยธรรมชาติ ทั้งเรื่องพายุ และเรื่องฝนตก
ส่วนที่รากนั้น น่าจะมาจากจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้าไปจำนวนมาก และขึ้นไปบนเกาะ เพื่อถ่ายรูป เกิดการเหยียบย่ำรากไม้ การขึ้นไปบนเกาะจำนวนมากอาจจะไปทำความเสียหายให้กับต้นตะบัน ที่เคยอยู่ตามธรรมชาติ เมื่อมีการรบกวนจึงอาจจะเกิดผลกระทบขึ้นได้ ซึ่งทางอบต.เกาะหมาก ได้ร่วมหารือกับทั้งททท.สำนักงานตราด เพื่อหาทางแก้ไขในเรื่องนี้แล้ว