จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ในประเทศไทยที่เริ่มดีขึ้นตามลำดับ พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ลดลง ส่งให้ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ครั้งล่าสุด ได้มีมาตรการคลายล็อกในหลายๆ ด้าน
หนึ่งในมาตรการที่ประชาชนรอคอยนั่นก็คือ ปลดล็อกให้สามารถ ถอดแมสก์ หรือ หน้ากากอนามัยได้ สำหรับผู้ที่อยู่ในที่โล่ง ไม่แออัด ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย หรือให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจได้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 นี้
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ครั้งที่ 9/2565 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยมีการปรับพื้นที่เฝ้าระวัง หรือ เป็นพื้นที่สีเขียวทั้ง 77 จังหวัดทั่วราชอาณาจักร มีผลนับตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังเห็นชอบผ่อนคลายมาตรการป้องกันการควบคุมโรคภายในประเทศ โดยให้เริ่มดำเนินการได้ทันที หรือหลังประกาศราชกิจจานุเบกษา
ส่วนมาตรการการสวมหน้ากากอนามัยนั้น ศบค.เห็นว่า ควรสวมหน้ากากและให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แออัด สถานที่ปิดหรือมีการอยู่ใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก
เงื่อนไขการสวมหน้ากากอนามัย
1.สถานที่นอกอาคาร
2.สถานที่ภายในอาคาร
เงื่อนไขการถอดหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เมื่อกิจกรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที
เริ่มถอดหน้ากากได้วันไหน
จังหวัดใดบ้าง