เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.ที่กระทรวงคมนาคม กลุ่ม Grab เคลื่อนที่เร็วเราช่วยกัน พร้อมด้วยตัวแทนคนขับแกร็บวิน นำโดยนายอรรถพล คล้ายพยัฆ ตัวแทนผู้ขับขี่แกร็บวิน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากประกาศของบริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) ที่ต้องการให้ปิดระบบแกร็บวินออกจากระบบแอพพลิเคชั่นภายใน 30 วัน ทำให้กระทบกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ยื่นหนังถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผ่านนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารมว.คมนาคม เพื่อเรียกร้องหลังจากที่มีประกาศจากกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการยุติการให้บริการ (GrabBike win)
ซึ่งจากประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบและความเดือดร้อนอย่างมากต่อกลุ่มไรเดอร์ ทำให้แกร็บวินหลายหมื่นรายจะต้องตกงานกระทันหัน รวมถึงไร้มาตรการเยียวยาและแผนรองรับจากขนส่ง ผู้ซึ่งเป็นคนออกคำสั่งดังกล่าว
นายอรรถพล กล่าวว่า บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) มีจดหมายถึงพาร์ทเนอร์คนขับที่ให้บริการแกร็บวิน สืบเนื่องจากประกาศกรมการขนส่งทางบก ที่กำหนดแกร็บวินรูปแบบใหม่ที่จะเปิดให้กับพาร์ทเนอร์คนขับป้ายเหลืองที่มีคุณสมบัติตามที่ระบุเท่านั้น คือ
จากประกาศดังกล่าวทำให้ผู้ขับขี่แกร็บวิน และประชาชนผู้รับบริการได้รับความเดือดร้อน ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ หากต้องกลับไปใช้รถส่วนตัวจะได้รับผลกระทบจากค่าน้ำมัน และปัญหาการจราจรอาจติดขัดมากขึ้น
ทั้งนี้ ตนมองว่าประเทศไทยมีกฎหมายฉบับเก่าไม่ครอบคลุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมองประชาชนเป็นหลักไม่ใช่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่ใช่เฉพาะกลุ่มป้ายขาวเท่านั้นที่ออกมาเรียกร้อง แต่ผู้ขับขี่รถป้ายเหลืองที่มีปัญหาติดขัดก็อยากให้แก้ไขผลกระทบนี้ด้วย
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาได้มีการเข้ายื่นหนังสือทั้งที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคม เพื่อขอความช่วยเหลือจากสถานการณ์น้ำมันแพงนอกจากจะไม่ได้รับเสียงตอบรับแล้วยังต้องมาเผชิญภาวะตกงานกระทันหันเช่นนี้ ดังนั้นจึงขอยื่นข้อเรียกร้องต่อกระทรวงคมนาคม คือ
อย่างไรก็ตาม เข้าใจเป็นอย่างดีว่ากระบวนการใดๆต้องใช้เวลา แต่ขอให้มาสอบถามพวกเราก่อน
ด้านนายวิรัช กล่าวว่า เราต้องการดูแลประชาชนให้มีหลักเกณฑ์ที่ปลอดภัยด้วย ทั้งนี้ ระยะเวลาหากสั้นไปเราก็ขยายเวลาจาก 30 วันออกไปอีก แต่จะเชิญตัวแทนเข้ามาพูดคุยกันก่อน วันนี้จะรับหนังสือจะไปปรึกษาหารือกันก่อน และจะนัดเวลามาพูดคุยกันอีกครั้ง
ขณะที่นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กล่าวว่า เรื่องราคาค่าโดยสารเราได้พูดคุยกับทางแอพฯแล้ว ว่าจะขอให้แยกค่าบริการออกจากค่าโดยสารเพื่อให้ชัดเจนว่าสิ่งที่เป็นค่าโดยสารจริงๆที่จะได้แล้วไม่โดนหักมันเป็นอย่างไรให้ชัดเจน ซึ่งปัจจุบันเรามีกฎหมายเรื่องรถสาธารณะจึงอยากให้เข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าทางกรมไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไร เพียงต้องการทำให้เข้าระบบเพื่อทำให้ถูกต้อง