นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง 5 เดือนเพิ่มขึ้น 8.9% เฉลี่ย 1 แสนบาร์เรลต่อวัน

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.4% โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 15.6% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 57.7% 

น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 20% LPG เพิ่มขึ้น 9.5% น้ำมันก๊าดเพิ่มขึ้น 1.9% ขณะที่การใช้ NGV เพิ่มขึ้น 2% อย่างไรก็ตาม การใช้กลุ่มเบนซินลดลง 0.3% เนื่องจากราคา ที่อยู่ในระดับสูง

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.71 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง 0.3%) เนื่องจากราคาที่อยู่ในระดับสูง การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 6.97 ล้านลิตรต่อวัน 5.74 ล้านลิตรต่อวัน และ 0.57 ล้านลิตรต่อวัน 
 

ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.45 ล้านลิตรต่อวัน และ 0.99 ล้านลิตรต่อวัน 

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 75.81 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 15.6%) การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้ไม่เกิน 30-32 บาทต่อลิตร สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 65.70 ล้านลิตรต่อวัน (เพิ่มขึ้น 69.5%)

น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 3.18 ล้านลิตรต่อวัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.20 ล้านลิตรต่อวัน

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.38 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 57.7%) เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศ

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.89 ล้านกก.9ต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 9.5%) เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น โดยภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.03 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 13.9%) ภาคขนส่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.05 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น 15.7%) ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.03 ล้านกก.ต่อวัน (เพิ่มขึ้น 9.7%) และภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.78 ล้านกก.ต่อวัน (เพิ่มขึ้น 2.1%)

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.33 ล้านกก.ต่อวัน (เพิ่มขึ้น 2%) โดย ปตท. ขยายระยะเวลาการคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และราคาขายปลีก NGV สำหรับรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเคยได้รับสิทธิผ่านมาตรการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกันที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกภาคส่วน

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,000,569 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 8.9%) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 937,101 บาร์เรลต่อวัน (เพิ่มขึ้น 6.7%) 

สอดคล้องกับความต้องการใช้ในประเทศที่สูงขึ้น โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 98,388 ล้านบาทต่อเดือน (เพิ่มขึ้น 91.8%)

สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63,468 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,490 ล้านบาทต่อเดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 170,459 บาร์เรล/วัน (ลดลง 4.8%) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 20,690 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น 86.2%)