นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพของประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา กรมฯได้ประชุมกับห้างค้าส่งค้าปลีกและร้านสะดวก อาทิ Makro, Big-C, Lotus’s, Tops, Foodland, 7-eleven, Lawson, CJ Express, MaxValue
เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า พบว่าภายหลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการลง ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 10% - 20% โดยในแหล่งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือมีนักท่องเที่ยวพักอาศัยจะมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 40% - 50%
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ทุกห้างฯ ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาในช่วงนี้ และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์จัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือตรึงอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ ในช่วงนี้ และสำหรับราคาจำหน่ายปลีกจะต้องไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยให้มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน
สำหรับกรณีข้าวสารบรรจุถุงที่มีกระแสข่าวว่าจะปรับขึ้นราคาก่อนหน้านี้ กรมการค้าภายในได้ประชุมกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 โดยทุกฝ่ายยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นราคาทั้งในส่วนผู้ประกอบการข้าวถุง และโรงสีในฐานะผู้แปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร นอกจากนี้จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหมุนเวียนแต่ละยี่ห้ออย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งจะได้จัดให้มีจุดจำหน่ายข้าวถุงราคาประหยัดทั่วประเทศร่วมกับกรมการค้าภายในอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือจำหน่ายแพงเกินสมควรจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท หากพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด