นายกฯ ชวนบิ๊กเอกชนญี่ปุ่น ลงทุนระบบรถยนต์ EV - เมืองอัจฉริยะ

25 ก.ค. 2565 | 09:40 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2565 | 16:46 น.

นายกฯ ชวนบิ๊กเอกชนญี่ปุ่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ขอให้ทางบริษัทฯ พิจารณาลงทุนในไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะในด้านเซมิคอนดักเตอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและสำหรับระบบเมืองอัจฉริยะ Eco System และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือกับนายไคนูมะ โยชิฮิสะ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทมินีแบมิตซูมิ (MinebeaMitsumi Inc.) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ เข้าเยี่ยมคารวะ

 

โดยนายกรัฐมนตรี ขอให้ทางบริษัทฯ พิจารณาลงทุนในไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะในด้านเซมิคอนดักเตอร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและสำหรับระบบเมืองอัจฉริยะ Eco System และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อจัดตั้งสถาบัน KOSEN ในไทยเพิ่มเติมด้วยแล้ว และหวังว่าจะมีความร่วมมือกับบริษัทฯ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีแก่แรงงานไทย 

นายกรัฐมนตรีหารือกับนายไคนูมะ โยชิฮิสะ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทมินีแบมิตซูมิ

 

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมนักลงทุนญี่ปุ่นที่ลงทุนในประเทศไทยอย่างมีความรับผิดชอบในช่วงที่ผ่านมา และไม่ทอดทิ้งกัน ทำให้สามารถดำรงการค้าการลงทุนระหว่างกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยนายกรัฐมนตรีหวังว่าจะมีการขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติมมากขึ้นในอนาคต

 

“ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความท้าทายต่าง ๆ มากมายในระดับโลก นายกรัฐมนตรีประสงค์ให้ภาคธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับห่วงโซ่การผลิตในประเทศไทย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เช่น การขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญ เป็นต้น จึงขอให้ทางบริษัทฯ พิจารณาลงทุนในไทยเพิ่มเติม”

 

พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นเรื่องพลังงานสะอาด ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และต้องการส่งเสริมให้บริษัทต่าง ๆ เน้นการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น 

นายกรัฐมนตรีหารือกับนายไคนูมะ โยชิฮิสะ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทมินีแบมิตซูมิ

 

นายกรัฐมนตรี ยังยินดีที่บริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานสะอาด โดยมีแผนงานต่าง ๆ ที่จะดำเนินการเรื่องพลังงานสะอาดในหลายส่วนทั้งภายในโรงงาน และมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนายกรัฐมนตรี พร้อมหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดระหว่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการแก้ปัญหาโลกร้อน และเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกของไทย 

 

ด้านนายไคนูมะ กล่าวว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยมียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะโคมไฟสำหรับเสาไฟถนนพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ ซึ่งขณะนี้ได้มีการร่วมมือกับหน่วยงานราชการของไทยไปบ้างแล้ว 

 

อย่างไรก็ดี เห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านพลังงานสะอาดระหว่างกันมากขึ้น เพื่อการบรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งไทยและญี่ปุ่นได้ตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหากรอบความร่วมมือและดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมาย โดยยึดผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก

 

นายไคนูมะ ยืนยันว่า บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอันดับแรกในฐานะที่เป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของทางบริษัทฯ และบริษัทฯ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรากฐานการส่งออกที่มั่นคง ผ่านความร่วมมือกับประเทศไทย

 

นายกรัฐมนตรีหารือกับนายไคนูมะ โยชิฮิสะ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทมินีแบมิตซูมิ