"พาณิชย์" แจง ไข่ยะลาแพง เป็นไปตามกลไกตลาด

ไข่แพง เป็นเรื่องที่สร้างความเดือนร้อนให้กับผู้รักการบริโภคไข่ไก่เป็นอย่างมาก เพราะไข่ไก่ถือว่าเป็นสินค้าราคาไม่แพง ผู้บริโภคสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่หลังจากที่สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ (สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว -ชลบุรี -เชียงใหม่-ลำพูน-ลุ่มแม่น้ำน้อย) ประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละอยู่ที่ฟองละ 3.40 บาท (ประกาศ 19 ก.ค. 65) ซึ่งเมื่อรวมค่าขนส่ง ค่าแรงงานคัดไข่ และค่าบริหารจัดการอื่นๆ ยังคงสอดคล้องกับต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่

และโครงสร้างราคาที่กำกับดูแลส่งผลให้ราคาขายไข่ไก่ ปรับราคาขึ้นมาค่อยข้างมากสร้างความเดือนร้อนให้กับผู้บริโภค และล่าสุดไข่ไก่ในพื้นที่เบตง จังหวัดยะลา มีการปรับราคาสูงขึ้นสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนที่ต้องการบริโภคไข่ไข่

ทั้งนี้นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวราคาไข่ไก่ที่จำหน่าย อ.เบตง จ.ยะลา มีการปรับราคาสูงขึ้น ซึ่งพาณิชย์จังหวัดยะลาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ปริมาณ และราคาไข่ไก่ โดยได้รับรายงานว่า ไข่ไก่ที่จำหน่ายที่ อ.เบตง เป็นไข่ไก่ที่มีการซื้อ-ขาย และขนส่งกันหลายทอด โดยผู้ค้าไข่ไก่ที่ อ.เบตง รับไข่ไก่คละมาจากอ.เมืองยะลา ซึ่งรับมาอีกทอดหนึ่งจากจ.ราชบุรี นครราชสีมาและชลบุรี

 ทั้งนี้ราคาที่ซื้อ-ขายนั้นเป็นไปตามประกาศของสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ (สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว -ชลบุรี -เชียงใหม่-ลำพูน-ลุ่มแม่น้ำน้อย) ซึ่งประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละอยู่ที่ฟองละ 3.40 บาท (ประกาศ 19 ก.ค. 65) ซึ่งเมื่อรวมค่าขนส่ง ค่าแรงงานคัดไข่ และค่าบริหารจัดการอื่นๆ ยังคงสอดคล้องกับต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ และโครงสร้างราคาที่กำกับดูแล

อย่างไรก็ตาม ในช่วง ก.ค.- ส.ค. ของทุกปีจะเป็นช่วงที่ราคาไข่ไก่ปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาดและความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับการลดปริมาณไข่ไก่ส่วนเกินที่มีปริมาณผลผลิตล้นตลาดในช่วง พ.ค.-มิ.ย. 65 ทำให้ปัจจุบันปริมาณผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ภาวะสมดุล เหมาะสมกับปริมาณความต้องการของประชาชน จึงอาจจะทำให้ราคาไข่ไก่ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ราคาดังกล่าวยังเป็นราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนและปริมาณการผลิตในปัจจุบัน รวมทั้ง ผู้ค้าไข่ไก่ใน อ.เบตง แจ้งว่ายินดีจะตรึงราคานี้ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2565 

ทั้งนี้ หากพบว่ามีผู้ประกอบการรายใดมีพฤติกรรมฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายเกินสมควร ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดต่อไป