นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในทุกช่องทาง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนและคุ้มครองผู้บริโภค ให้ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและถูกต้องตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่การสกัดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่นำเข้ามาผ่านแนวชายแดน โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้บูรณาการการทำงานร่วมกับศุลกากร
ในการออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออก ห้ามนำเข้า และ ห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2565 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนตลาดออนไลน์
โดยได้ร่วมมือกับมาร์เก็ตเพลสเจ้าของแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศกว่า 95% ทั้งช้อปปี้ เจดีเซ็นทรัล และลาซาด้า โดยหากพบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในมาร์เก็ตเพลสดังกล่าวสามารถร้องเรียนเพื่อดำเนินการนำออกจากระบบทันที
นอกเหนือจากมาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ดำเนินการคู่ขนานสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริโภคเห็นถึงภัยของการซื้อหรือบริโภคสินค้าปลอมที่อาจมีผลกระทบต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของผู้บริโภค สำหรับผู้ค้ารายย่อย
กรมฯ มีความร่วมมืออย่างดียิ่งกับเจ้าของโมเดิร์นเทรดไม่นำสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาจำหน่าย พร้อมลดค่าเช่าพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมให้คนไทย นำผลงานทรัพย์สินทางปัญญามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง
“เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญากลับเข้าสู่ท้องตลาด กรมทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาและเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นต้น
กำหนดจัดพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ประจำปี 2565 ในวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ณ ลานอเนกประสงค์ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศที่ 1 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และสร้างบรรยากาศทางการค้าที่เอื้อต่อการลงทุนภายในประเทศ”